ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จังหวัดชายแดนภาคใต้ อีก 3 เดือน

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ  อาคารบี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ 

พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  โดยมี นายชัยเกษม นิติศิริ รมว.ยุติธรรม ผู้แทนกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย สภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

รายงานข่าวเปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติ ต่ออายุพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ที่จะครบกำหนดในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ออกไปอีกเดือน 3 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.2556 - 19 มี.ค.2557 แต่ได้ปรับลดพื้นที่บางส่วน จาก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เป็นการใช้ พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร คือ อ.กาบัง จ.ยะลา จากเดิม ที่มีเพียง อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ที่ใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เนื่องจากเหตุความรุนแรงลดลง จึงมั่นใจในสถานการณ์ในพื้นที่ อ.กาบังว่ามีความปลอดภัย และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลอย่างเพียงพอ จึงปรับลดใช้พ.ร.บ. ความมั่นคง เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนในพื้นที่ที่จะสามารถดูแลตัวเองได้ แต่จะมีการประเมินสถานการณ์ทุกเดือน โดยได้มอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.)เป็นผู้ดูแลประสานกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเตรียมความพร้อม ดูแลพื้นที่ นอกจากนี้ ยังพิจารณาพื้นที่ที่จะมีการใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงฯในอนาคต ได้แก่ อ.เบตง จ.ยะลา อ.แว้ง และสุคิริน จ.นราธิวาส และอ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี

ด้าน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสมช. กล่าวว่า สำหรับเหตุลอบวางระเบิดรถทหาร ในพื้นที่ อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี

ทำให้ทหารเสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บ 14 ราย รวมทั้งเหตุไม่สงบ เมื่อเช้าที่มีการลอบวางระเบิดชุดคุ้มครองครู อ.สายบุรี จ.ปัตตานีว่าเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุ กลุ่มเดิม ที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมือง และปัญหาสถานการณ์การเมือง ทำให้ ต้องมีการเลื่อนการพูดคุยสันติภาพ จากเดิมที่กำหนดกรอบเวลาการพูดคุยไว้ ช่วงต้นเดือน ธ.ค.ออกไปก่อน ซึ่งเชื่อว่า ผลจากการเลื่อนการพูดคุยสันติภาพดังกล่าว จะเป็นสาเหตุหนึ่งที่มีการก่อเหตุไม่สงบขึ้นในช่วงนี้ เพื่อกดดันให้มีการพูดคุยสันติภาพ

เลขาธิการสมช. กล่าวอีกว่า การพูดคุยสันติภาพยังต้องมีต่อไป แต่ยังอยู่ระหว่างกำหนดวันและเวลาที่เหมาะสม

โดยแม้จะเป็นรัฐบาลรักษาการก็จะไม่กระทบกับการพูดคุยสันติภาพ เพราะถือเป็นนโยบายในการปฏิบัติอยู่แล้ว ขณะที่เหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงมีการชุมนุมทางการเมืองนั้น ถือว่าลดลงมาตลอดจากช่วงที่ผ่านมา.