ประชาแถลงออกทีวีทุกช่อง-ยังคุมสถานการณ์อยู่ ขอความร่วมมืออย่าออกจากบ้าน 4 ทุ่มถึง ตี5

ประชาแถลงออกทีวีทุกช่อง-ยังคุมสถานการณ์อยู่ ขอความร่วมมืออย่าออกจากบ้าน 4 ทุ่มถึง ตี5

เมื่อเวลา 19.10 น. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯ พร้อมด้วยรองนายกฯอีก 4 คนแถลงผ่านทีวีทุกช่อง ว่า 

 กรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้ออกแถลงการณ์เมื่อช่วงเวลา 16.00น.ของวันที่ 1 ธันวาคม 2556 นั้นพี่น้องประชาชน ทราบดีว่านายสุเทพ เป็นผู้ต้องหาคดีอาญาตามหมายจับของศาลอาญา ในคดีกระทำการให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองและบุกรุกสถานที่ราชการ และในปัจจุบันได้เชิญชวนผู้เข้าร่วมชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์ โดยใช้กำลังประทุษร้าย และบังคับให้ถ่ายทอดรายการตามความต้องการของตน นอกจากนี้ได้ใช้กำลังประทุษร้ายเข้ายึดหรือพยายามเข้ายึดสถานที่ราชการ
 
ตนในฐานะที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลด้านความมั่นคง ขอเรียนให้พี่น้องประชาชนทราบว่า 

1.การที่นายสุเทพ แถลงว่ารัฐบาลไม่เคารพคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาของสมาชิกวุฒิสภานั้นที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยมีแถลงการณ์ใดๆ หรือมีการแสดงใดๆ ที่เป็นการไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และแถลงการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องของพรรคการเมือง ไม่ใช่รัฐบาล   
 
2.เรื่องร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)นิรโทษกรรม ขอเรียนว่า ร่าง พ.ร.บ. นี้ไม่ใช่ร่างฯของคณะรัฐมนตรี แต่เป็นร่างของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นอำนาจนิติบัญญัติแยกออกจากอำนาจฝ่ายบริหาร และขณะนี้ก็เป็นที่ชัดเจนว่าวุฒิสภาไม่รับหลักการร่างฉบับนี้และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็ไม่สนับสนุนร่างฯฉบับนี้ต่อไป ถือได้ว่าร่างฉบับนี้ตกไปและไม่มีโอกาสบังคับใช้แน่นอนแล้ว  
 
3.การที่ นายสุเทพ บอกว่าให้วันพรุ่งนี้ (2 ธันวาคม 2556 ) เป็นวันหยุดราชการนั้น ขอยืนยันว่าในวันพรุ่งนี้ ( 2 ธันวาคม 2556) หน่วยงานราชการจะเปิดทำการตามปกติ และต่อกรณีที่ขอให้สื่อโทรทัศน์เลิกนำเสนอข่าวของรัฐบาล และให้มานำเสนอเหตุการณ์ของการชุมนุมนั้นขอเรียนให้ทราบว่า นายสุเทพไม่มีอำนาจรัฐ ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ที่จะสั่งให้สื่อโทรทัศน์หยุดการเสนอข่าวของรัฐบาลได้
 
4.ตามที่นายสุเทพ อ้างการชุมนุมเป็นไปตามสิทธิ์มาตรา 69 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ขอเรียนให้พี่น้องทราบว่า มาตรา 69 มีข้อความดังนี้ “บุคคลย่อมมีสิทธิต่อต้านโดยสันติวิธีซึ่งการกระทำใด ๆ ที่เป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้” คือการกระทำนั้นต้องเป็นการกระทำโดยสันติวิธี แต่วิธีการที่นายสุเทพ และแกนนำบุคคลอื่นได้นำมวลชนเข้าหรือพยายามเข้ายึดสถานที่ราชการ สถานีโทรทัศน์ หรือสถานที่ของรัฐอื่นใด มิได้เป็นไปโดยสันติวิธี มีการใช้กำลังพยายามพังพนังกั้นที่ทำด้วยปูน มีการขว้างระเบิดปิดปองเข้าไปยังหน่วยรักษาความปลอดภัย และรัฐบาลชุดนี้เข้ามาเป็นรัฐบาล โดยผ่านกระบวนการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญกำหนด และรัฐบาลไม่ได้กระทำการใดๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ในทางตรงกันข้าม การดำเนินการที่กล่าวมาของนายสุเทพ ที่ใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อล้มล้างอำนาจบริหาร หรือให้ฝ่ายบริหารใช้อำนาจดังกล่าวไม่ได้ เป็นการกระทำที่เข้าองค์ประกอบความผิดการเป็นกบฏ ตามมาตรา 113 แห่งประมวลกฎหมายอาญา มีโทษถึงประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต   
 
5.กรณีความรุนแรงที่ถนนรามคำแหง และสนามกีฬารัชมังคลากีฬาสถานนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสืบสวนขยายผลในการเข้าจับกุมผู้กระทำความผิด ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้บงการและผู้กระทำความผิดในไม่ช้า และขณะนี้ตำรวจได้แจ้งว่าให้ทราบแล้วว่ามีผู้เสียชีวิต 3 ราย เป็นฝ่ายแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)  2 รายและฝ่ายผู้ชุมนุม 1 ราย
 
และจากสถานการณ์ที่มีความรุนแรงในเขตพื้นที่ดังกล่าวข้างต้นนั้น

จากการสืบทราบของหน่วยข่าวกรองและหน่วยงานความมั่นคง พบว่ามีความพยายามของกลุ่มบุคคลที่3 ที่พยายามใช้สถานการณ์ดังกล่าวก่อความไม่สงบ โดยเชื่อว่าอาจจะมีการกระทำที่รุนแรงและอาจมีการใช้อาวุธที่เป็นอันตรายต่อพี่น้องประชาชนและผู้ชุมนุม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเกลียดชังต่อรัฐบาลและเพื่อเป็นการยกระดับสถานการณ์ ดังนั้นหลังเวลา 22.00 น. - 05.00 น.ของวันใหม่ หากไม่มีความจำเป็นขอให้พี่น้องประชาชนไม่ควรออกนอกเคหะสถาน ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และไม่ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มบุคคลที่ 3 ดังกล่าว
 
และขอประกาศให้ทราบว่า ขณะนี้รัฐบาลควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ไว้ได้ด้วยความเรียบร้อย 

อย่างไรก็ดี รัฐบาลมีความปรารถนาดีที่จะรับฟังความเห็นของทุกฝ่ายและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกเราทุกคนจะหันหน้าเข้ามาปรึกษาหารือเพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและประชาชน


จึงกราบเรียนมาเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีความมั่นใจและมีความสบายใจว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของพี่น้องประชาชนทุกคน ดังนั้นรัฐบาลจึงให้ความสำคัญต่อการตัดสินใจด้วยการรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย โดยยึดเอาผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง
 
รัฐบาลขอเน้นย้ำอีกครั้งว่าจะทำหน้าที่ในการป้องกันพี่น้องประชาชนและจะนำมาซึ่งความปกติสุขโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้เพื่อให้พสกนิกรชาวไทยทุกคนได้มีความพร้อมที่จะถวายความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ที่จะถึงนี้

จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์