พิษณุโลกพบคุณปู่ อายุยืน 108 ปี รุ่นสงครามโลก สงครามอินโดจีน ยังแข็งแรงเดินเหินได้เอง อาศัยเพียงไม้เท้าเล็กๆ เผยเคล็ดลับไม่ดื่มไม่สูบ กินน้ำพริกผักต้ม
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 29 พ.ย.ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากชขาวบ้านว่าที่บ้าน บางสะพาน หมู่ 4 ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
มีอดีตทหารผ่านศึกสมัยสงครามโลกและสงครามอินโดจีนที่ยังมีชีวิตและยังมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง จึงได้เดินทางไปพบกับนายปุ่น ตะโกศัย หรือนามสกุลเดิม พูนตะโกไสย อายุ 108 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139 หมู่ 4 ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก นั่งพูดคุยอยู่ใต้ถุนบ้านกับลูกหลานอย่างสนุกสนาน โดยมีลูกน.ส.สายหยุด ตะโกศัย อายุ 56 ปี ลูกสาวคนที่ 4 คอยดูแลอยู่ที่บ้านพักหลังดังกล่าว พบปู่ปุ่น ยังเดินเหินคล่อง จึงขอตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชนพบว่า มีแต่ปี แต่วันเกิดและเดือนไม่มี โดยปีในบัตรประชาชน ระบุว่า เกิดเมื่อปี พ.ศ.2449 แต่จริงแล้วคุณตาเกิดเมื่อปี 2448 ซึ่งลดไปจากอายุจริง 1 ปี
จากการสอบถามนายปุ่น หรือคุณปู่ปุ่น เล่าให้ฟังว่าเดินทีเป็นคนจังหวัดพิจิตร
เคยเข้ารับใช้ชาติเป็นทหารเกณฑ์สังกัด กองพันที่ 2 กรมทหารราบที่ 4 ประจำจังหวัดพิษณุโลก และรับใช้ชาติเป็นเวลา 8 ปี สมัยที่เป็นทหารอยู่นั้นได้ไปร่วมรบในช่วงสมัยสงครามอินโดจีน สงครามโลกครั้งที่ 2และประจำการอยู่ชายแดนแถบอ.แม่สอด จนกระทั่งปลดประจำการเคยได้รับเหรียญกล้าหาญและเหรียญทหารผ่านศึกมาแล้วมากมาย หลังจากปลดประจำการก็มาตั้งรกรากอยู่ที่ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก แต่งานมีครอบครัวจนมีลูกทั้งหมด 5 คน ส่วนภรรยาคู่ชีวิตได้ตายจากไปเมื่อหลายสิบปีก่อน
คุณปู่ปุ่น เล่าให้ฟังต่อว่า สมัยหนุ่มทำงานหนักแต่ก็ยังชอบออกกำลังกายทุกวันเพราะได้รับการฝึกฝนในช่วงที่รับราชการทหารอีกทั้งตนเองไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ ชอบกินน้ำพริกผักต้มเป็นประจำ
ทำให้ทุกวันนี้ร่างกายยังแข็งแรงสามารถเดินเหินได้ตามปกติแต่ต้องมีไม้เท้าช่วยค้ำยัน ทุกเช้าหลังตื่นนอนตนเองก็ลงมาจากบ้านพักและเดินออกกำลังกายแถวบ้านพัก แต่เดินได้ไม่นานมาก เพราะช่วงนี้อากาศเริ่มหนาวลงทำให้รู้สึกเจ็บที่หัวเข่า ส่วนความช่วยเหลือได้รับเบี้ยผู้สูงอายุ เดือนละ 1,000 บาท ล่าสุดทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ได้มอบประกาศเกียรติคุณให้ตนเองเป็นผู้มีสุขภาพดี มีอายุ 100 ปีขึ้น ฝ่ายชาย รับโล่เกียรติคุณเมื่อช่วงเดือนกันยายน 2556 ที่ผ่านมา
ด้านนางสายหยุด ลูกสาวคนที่ 4 เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ก่อนหน้านี้พ่อของตนอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวกับภรรยาคนที่ 2
ส่วนตนทำงานอยู่ที่กรุงเทพและพี่น้องคนอื่นๆได้แยกย้ายไปมีครอบครัวกันหมด จนกระทั่งแม่เลี้ยงของพวกตนเองได้เสียชีวิต ส่วนตนไม่ได้แต่งงานมีครอบครัว จึงย้ายกลับมาดูแลบิดาที่บ้าน มื่อสองสามปีก่อนหน้านี้บิดายังร่างกายแข็งแรงกว่านี้มากยังสามารถปั่นจักรยานสองล้อไปรอบๆหมู่บ้านได้อย่างสบาย ปัจจุบันคุณพ่อมีโรคประจำตัวคือความดันโลหิตสูง จึงได้แนะนำไม่ให้ออกกำลังกายหนักมากนักอีกทั้งขาทั้งสองข้างก็เริ่มมีอาการปวดที่หัวเข่าทั้งสองข้างเดินไม่ถนัดเหมือนแต่ก่อน แต่ก็ยังสามารถเดินขึ้นบ้านพักได้ปกติโดยไม่ต้องมีคนช่วยเหลือ ส่วนเรื่องความจำ สายตายังดีปกติ จะมีเรื่องหูที่ต้องคอยพูดเสียงดังหน่อย สมัยเด็กๆพ่อชอบเล่าเรื่องที่คุณพ่อเป็นทหารและไปรบให้พวกลูกๆฟังบ่อยครั้งมาก ซึ่งถือว่ามีความสุขในครอบครัวเป็นอย่างมาก