ตะครุบหนุ่มใหญ่แสบ มอมยาสาวรูดทรัพย์

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 18 พ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.อิทธิพล ภิริยะภิญโญ พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รองผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ ผบก.น.5 พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผกก.สน.บางนา พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ สว.สส.สน.บางนา 

ร่วมกันแถลงจับกุมนายดวงเฉลิม หรือเศกศึก กุลให้ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92/2 หมู่ 2 ต.บ่อทอง อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมอมยาชิงทรัพย์หญิงสาวหลายราย พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น จี้ทองคำ 1 สลึง 1 อัน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และยาอัลแลม จำนวน 15 เม็ด โดยจับกุมได้ที่หน้าห้องเช่าไม่มีเลขที่ ซอยสุขุมวิท 48 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย ทั้งนี้มีผู้เสียหาย 3 ราย เดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหาในระหว่างแถลงข่าวด้วย

พล.ต.ต.อิทธิพล กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ก.ย. ที่ผ่านมา น.ส.เอ(นามสมมติ)อายุ 30 ปี และน.ส.บี(นามสมมติ) อายุ 30 ปี ได้เข้าแจ้งความว่าถูกคนร้ายมอมยา และชิงทรัพย์ที่ร้านอาหาร 13 เหรียญรีสอร์ท ถนนบางนา – ตราด แขวงและเขตบางนา โดยพฤติกรรมของคนร้ายจะเข้าไปเที่ยวภายในร้านอาหารที่ผู้เสียหายทำงานอยู่ จากนั้นจะทำทีเข้ามาตีสนิท และชักชวนออกไปข้างนอก ก่อนจะไปเปิดห้องพักที่ 13 เหรียญรีสอร์ท และนำยาอัลแลม ซึ่งเป็นยากลุ่มเดียวกับอัลฟาโซแลม หรือยาเสียสาว ผสมในเครื่องดื่ม ให้ผู้เสียหายดื่ม เมื่อผู้เสียหายหมดสติก็ลักทรัพย์สินหลบหนีไป ต่อมาชุดสืบสวนสน.บางนา ได้หาเบาะแสจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายดวงเฉลิม จึงขออำนาจศาลจังหวัดพระโขนงเพื่อออกหมายจับ กระทั่งติดตามตัวมาดำเนินคดีได้

ด้านพล.ต.ต.สืบศักดิ์ กล่าวว่า สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุมาทั้งหมด 3 ครั้ง จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยถูกดำเนินคดีทำร้ายร่างกายและกระทำการอนาจารต่อหน้าธารกำนัล ในพื้นที่สน.บางรัก เมื่อ 20 ปีก่อน นอกจากนี้เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 55 ผู้ต้องหาได้ร่วมกับนายต้น ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ก่อเหตุลักทรัพย์ในเวลากลางคืน เหตุเกิดในห้องพักเลขที่ 504 โรงแรม 13 เหรียญ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ได้ทรัพย์สินไป 1.5 แสนบาท โดยพนักงานสอบสวนได้ขออำนาจศาลจังหวัดนนทบุรี ออกหมายจับ และจับกุมตัวได้ในวันเดียวกัน แต่ผู้ต้องหาได้ประกันตัวในชั้นศาลและหลบหนี

พล.ต.ต.สืบศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 56 ผู้ต้องหาได้ใช้ชื่อปลอมว่า “เอก” โทรศัพท์หลอกผู้เสียหาย 2 คน ซึ่งเคยรู้จักกันในร้านคาราโอเกะก่อนหน้านี้ มาที่ร้านอาหาร 13 เหรียญรีสอร์ท ย่านบางนา และใช้ยาอัลแลมผสมในเครื่องดื่มให้ผู้เสียหายดื่ม ก่อนจะลักทรัพย์สินมูลค่ากว่า 4 หมื่นบาท หลบหนีไป ซึ่งพนักงานสอบสวนสน.บางนาได้ขออำนาจศาลจังหวัดพระโขนงออกหมายจับไว้เมื่อวันที่ 22 ต.ค. และเมื่อวันที่ 20 ต.ค. ผู้ต้องหาได้อ้างตัวเป็นชาวฟิลิปปินส์ ชื่อ “โทนี่” โทรศัพท์หลอกผู้เสียหายซึ่งเป็นหมอนวดที่รู้จักกัน มาที่โรงแรมนิรันดร์แกรนด์ และใช้ยาอัลแลมผสมในเครื่องดื่มให้ผู้เสียหายดื่มอีกคดีหนึ่ง ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน

จากการสอบสวนนายดวงเฉลิม ให้การอ้างว่า ประกอบอาชีพขายสินค้าอยู่ในตลาดนัดย่านพระโขนง สาเหตุที่ลงมือเป็นเพราะเคยถูกผู้หญิงหลอก และถูกโกง จึงคิดที่จะแก้แค้น ส่วนมากจะเลือกเหยื่อตามสถานที่เที่ยว สำหรับยาอัลแลมที่นำมาใช้ก่อเหตุซื้อมาจากเพื่อนชื่อนายตุ๋ย ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง อายุประมาณ 37 ปี ทำงานอยู่ที่บาร์ในซอยธนิยะ ย่านสีลม โดยเลียนแบบวิธีการดังกล่าวมาจากทางอินเตอร์เน็ต

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป