กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า มีสิ่งหนึ่งที่ยอมรับว่าไม่สบายใจอย่างมากสำหรับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปเที่ยวเขาใหญ่คือ การแหย่สัตว์ และให้อาหารสัตว์ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานี้ได้รับแจ้งขากเจ้าหน้าที่ทุกวันว่า มีนักท่องเที่ยวที่ไปเดินเที่ยวบริเวณน้ำตกผากล้วยไม้ ซึ่งเป็นที่อาศัยของจระเข้ 2 ตัว ที่มีคนแอบเอามาปล่อยไว้เมื่อหลายปีก่อน โดยเวลานี้ จระเข้ทั้ง 2 ตัว ซึ่งคาดว่าเป็นตัวผู้ทั้งคู่ มีขนาดใหญ่ขึ้นมาก จากเดิมที่เจอครั้งแรกมีขนาดแค่เมตรกว่า เวลานี้ พบว่ายาวเกือบ 3 เมตรแล้ว โดยนักท่องเที่ยวที่เห็นจระเข้นอนอาบแดดอยู่ก็จะชอบเอากิ่งไม้ไปแหย่ หรือเอาก้อนหินขว้างใส่ ทำให้จระเข้ตกใจ บางครั้งก็วิ่งไล่ ซึ่งอันตรายมาก
เล็งจับ ไอ้เข้ เขาใหญ่ ไล่งับนักท่องเที่ยวทุกวัน หวาดเสียวงับลิงขาด 2 ท่อน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ เล็งจับ ไอ้เข้ เขาใหญ่ ไล่งับนักท่องเที่ยวทุกวัน หวาดเสียวงับลิงขาด 2 ท่อน
วันที่ 13 พฤศจิกายน นายกฤษฎา หอมสุต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า มีสิ่งหนึ่งที่ยอมรับว่าไม่สบายใจอย่างมากสำหรับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปเที่ยวเขาใหญ่คือ การแหย่สัตว์ และให้อาหารสัตว์ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานี้ได้รับแจ้งขากเจ้าหน้าที่ทุกวันว่า มีนักท่องเที่ยวที่ไปเดินเที่ยวบริเวณน้ำตกผากล้วยไม้ ซึ่งเป็นที่อาศัยของจระเข้ 2 ตัว ที่มีคนแอบเอามาปล่อยไว้เมื่อหลายปีก่อน โดยเวลานี้ จระเข้ทั้ง 2 ตัว ซึ่งคาดว่าเป็นตัวผู้ทั้งคู่ มีขนาดใหญ่ขึ้นมาก จากเดิมที่เจอครั้งแรกมีขนาดแค่เมตรกว่า เวลานี้ พบว่ายาวเกือบ 3 เมตรแล้ว โดยนักท่องเที่ยวที่เห็นจระเข้นอนอาบแดดอยู่ก็จะชอบเอากิ่งไม้ไปแหย่ หรือเอาก้อนหินขว้างใส่ ทำให้จระเข้ตกใจ บางครั้งก็วิ่งไล่ ซึ่งอันตรายมาก
กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า มีสิ่งหนึ่งที่ยอมรับว่าไม่สบายใจอย่างมากสำหรับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปเที่ยวเขาใหญ่คือ การแหย่สัตว์ และให้อาหารสัตว์ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานี้ได้รับแจ้งขากเจ้าหน้าที่ทุกวันว่า มีนักท่องเที่ยวที่ไปเดินเที่ยวบริเวณน้ำตกผากล้วยไม้ ซึ่งเป็นที่อาศัยของจระเข้ 2 ตัว ที่มีคนแอบเอามาปล่อยไว้เมื่อหลายปีก่อน โดยเวลานี้ จระเข้ทั้ง 2 ตัว ซึ่งคาดว่าเป็นตัวผู้ทั้งคู่ มีขนาดใหญ่ขึ้นมาก จากเดิมที่เจอครั้งแรกมีขนาดแค่เมตรกว่า เวลานี้ พบว่ายาวเกือบ 3 เมตรแล้ว โดยนักท่องเที่ยวที่เห็นจระเข้นอนอาบแดดอยู่ก็จะชอบเอากิ่งไม้ไปแหย่ หรือเอาก้อนหินขว้างใส่ ทำให้จระเข้ตกใจ บางครั้งก็วิ่งไล่ ซึ่งอันตรายมาก
"ความจริงจะไปโทษจระเข้ก็คงไม่ถูกนัก เพราะมันคงทำไปตามสัญชาติญาณ ถ้ามันนอนของมันเฉยๆไม่มีใครไปทำอะไรก็คงไม่มีอะไร แต่นี่ได้รับแจ้งประจำว่านักท่องเที่ยวชอบแหย่ บางรายห้ามแล้วไม่ฟังด้วย ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบซากลิง ที่ถูกจระเข้กัดขาด 2 ท่อนอยู่ที่บริเวณผากล้วยไม้ ผมจึงบอกให้นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน สัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติให้หาวิธีนำเอาจระเข้ทั้ง 2 ตัวนี้ออกไปจากอุทยานฯเขาใหญ่ ถ้าเอาออกไปก่อนปีใหม่ได้ยิ่งดี มิฉะนั้นแล้วอาจจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยวได้"นายกฤษฎา กล่าว
นายกฤษฎา กล่าวว่า แม้ว่าจระเข้ทั้ง 2 ตัว จะอยู่ในธรรมชาติ แต่สันนิษฐานว่า ทั้ง 2 ตัวมีความเครียด
เนื่องจากอยู่ในวัย ที่ถึงเวลาจะต้องผสมพันธุ์แล้ว แต่ไม่ได้ผสมพันธุ์ตามธรรมชาติ จึงมีความเครียด บวกกับถูกกระตุ้น จากนักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปผ่านมาทุกวัน และเอาไม้บ้าง ก้อนหินบ้างไปขว้างใส่ ทำให้อารมณ์เสียต้องไล่ทำร้าย ในปีที่ผ่านมาอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เคยคิดที่จะย้ายจระเข้ทั้ง 2 ตัวออกมาจากน้ำตกผากล้วยไม้ ไปอยู่ที่ ที่เหมาะสม แต่ยังไม่สามารถทำได้ เพราะขั้นตอนการจับค่อนข้างยาก
เนื่องจากอยู่ในวัย ที่ถึงเวลาจะต้องผสมพันธุ์แล้ว แต่ไม่ได้ผสมพันธุ์ตามธรรมชาติ จึงมีความเครียด บวกกับถูกกระตุ้น จากนักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปผ่านมาทุกวัน และเอาไม้บ้าง ก้อนหินบ้างไปขว้างใส่ ทำให้อารมณ์เสียต้องไล่ทำร้าย ในปีที่ผ่านมาอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เคยคิดที่จะย้ายจระเข้ทั้ง 2 ตัวออกมาจากน้ำตกผากล้วยไม้ ไปอยู่ที่ ที่เหมาะสม แต่ยังไม่สามารถทำได้ เพราะขั้นตอนการจับค่อนข้างยาก
นายกฤษฎา กล่าวว่า นอกจากจระเข้แล้ว เขาใหญ่ยังมีเรื่องของลิง
ที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวชอบเอาอาหารให้ลิง จนลิง ติดเป็นนิสัย ไม่ยอมหาอาหารในป่ากิน ทั้งๆที่ป่าเขาใหญ่มีอาหารลิงอุดมสมบูรณ์มาก ลิงที่เกิดมาใหม่ หาอาหารเองไม่เป็นต้องออกมาขออาหารจากนักท่องเที่ยว ถ้านักท่องเที่ยวไม่ให้ เมื่อสบโอกาสจะแย่งหรือทำร้ายทันที
ที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวชอบเอาอาหารให้ลิง จนลิง ติดเป็นนิสัย ไม่ยอมหาอาหารในป่ากิน ทั้งๆที่ป่าเขาใหญ่มีอาหารลิงอุดมสมบูรณ์มาก ลิงที่เกิดมาใหม่ หาอาหารเองไม่เป็นต้องออกมาขออาหารจากนักท่องเที่ยว ถ้านักท่องเที่ยวไม่ให้ เมื่อสบโอกาสจะแย่งหรือทำร้ายทันที
"ตอนนี้ผมกำลังปฏิบัติการจิตวิทยากับลิงที่เกเร ทำร้ายและขโมยของนักท่องเที่ยว โดยการจับเอามาใส่กรงขังเอาไว้ และเอากรงไปวางไว้ในฝูงของมันนั่นแหละ ให้ตัวอื่นๆเห็นว่า ถ้าทำผิดจะต้องถูกลงโทษแบบนี้ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ผลหลายตัว ลิงที่เคยถูกจับขังจะลดพฤติกรรมการขอและแย่งอาหารจากนักท่องเที่ยวไปบ้าง อย่างไรก็ตามสำคัญที่สุดคือ ตัวนักท่องเที่ยวเองจะต้องไม่ให้อาหารลิง และสัตว์ทุกชนิดบนเขาใหญ่อย่างเด็ดขาด "นายกฤษฎา กล่าว
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า
จระเข้ทั้ง 2 ตัว ที่อยู่ในน้ำตกผากล้วยไม้นั้น ไม่ใช่จระเข้ที่อยู่ตามธรรมชาติ แต่เป็นจระเข้ที่มีคนแอบนำมาปล่อยเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งเวลานี้ ทั้ง 2 ตัว มีขนาดใหญ่กว่าตอนพบครั้งแรกมาก ที่น่าเป็นห่วงคือ เวลานี้จระเข้มีความเครียดเพราะนักท่องเที่ยวชอบไปแหย่ จึงถูกไล่งับเป็นประจำ
จระเข้ทั้ง 2 ตัว ที่อยู่ในน้ำตกผากล้วยไม้นั้น ไม่ใช่จระเข้ที่อยู่ตามธรรมชาติ แต่เป็นจระเข้ที่มีคนแอบนำมาปล่อยเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งเวลานี้ ทั้ง 2 ตัว มีขนาดใหญ่กว่าตอนพบครั้งแรกมาก ที่น่าเป็นห่วงคือ เวลานี้จระเข้มีความเครียดเพราะนักท่องเที่ยวชอบไปแหย่ จึงถูกไล่งับเป็นประจำ
"เวลานี้ได้สั่งการให้อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ทำป้ายเตือนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ว่าห้ามแหย่จระเข้เด็ดขาด เพราะเป็นอันตรายมาก หากจวนตัวเจ้าหน้าที่อาจจะเข้าไปช่วยไม่ทัน ทั้งนี้ จะพยายามดำเนินการย้ายจระเข้ออกมาจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด โดยจะนำไปอยู่ในที่ที่เหมาะสม เช่น ในอุทยานที่มีจระเข้น้ำจืดอาศัยอยู่ เช่น อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติเขาอ่างฤาไน ซึ่งอาจจะมีจระเข้สาว ที่สามารถให้จระเข้ทั้ง 2 ตัวนี้ ผสมพันธุ์ได้ด้วย"นายธีรภัทร กล่าว
นายธีรภัทร กล่าวว่า นอกจากจระเข้แล้ว ยังพบว่า อุทยานเขาใหญ่ ยังมีคนลักลอบเอาสัตว์ชนิดอื่นๆมาปล่อยอีกด้วย เช่น งูเหลือม งูหลาม แม้กระทั่ง ในน้ำตกเล็กๆก็เคยพบจระเข้ตัวเล็ก นอกเหนือจาก 2 ตัว ที่อยู่ประจำ แต่เจ้าหน้าที่จับออกมาแล้ว ทั้งนี้ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ติดตั้งกล้องวงจรปิด หรือ ซีซีทีวี ในพื้นที่