เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 9 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้า ร.ร.บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ คณะธรรมยาตรากอบกู้รักษาผืนแผ่นดินไทยกรณีเขาพระวิหาร-มลฑลบูรพา นำโดย นายผัน กิ่งแสง อายุ 79 ปี ได้พากันนั่งปักหลักอยู่กลางถนนขวางทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เนื่องจากว่าไม่สามารถที่จะฝ่าด่านของเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้านขึ้นไปบริเวณผามออีแดงได้ โดยมี นายสนิท ขาวสะอาด รอง ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายเมตต์ แสงจันทร์ ปลัดอาวุโส อ.กันทรลักษ์ และ พ.ต.อ.ศักดิ์ชาย โรจนรัตนางกูร ผกก.สภ.บึงมะลู นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงมารักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ขอให้คณะกลุ่มธรรมยาตราฯหลบออกพ้นจากกลางถนน เนื่องจากเกรงว่าจะกีดขวางเส้นทางยุทธวิธีของฝ่ายทหาร แต่ว่าคณะธรรมยาตราฯไม่ยอม และปักหลักนั่งสมาธิกลางถนนท่ามกลางความมืด
นายวิชาญ ภูวิหาร อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นสมาชิกคณะธรรมยาตราฯ และเป็น 1 ใน 3 คนไทยที่ปีนรั้วเข้าไปในเขตที่ทหารกัมพูชายึดครองอยู่บริเวณทางขึ้นเขาพระวิหาร กล่าวว่า ตนพร้อมด้วยสมาชิกคณะธรรมยาตราฯ คือ นายสนิท ปานทอง และนายผัน กิ่งแสง ประกาศอดอาหารประท้วง ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 9 พ.ย.56 เป็นต้นไป เพื่อขับไล่รัฐบาล เนื่องจากปล่อยให้ฝ่ายกัมพูชายึดครองเขาพระวิหาร ซึ่งแทนที่รัฐบาลจะนำเอาอนุสัญญาโตเกียว ค.ศ.1941 มาใช้ในการยื่นฟ้องต่อศาลโลก เพื่อแก้ไขปัญหาบริเวณเขาพระวิหาร กลับปล่อยปละละเลยให้ปัญหาเรื้อรังยืดเยื้อมาจนทุกวันนี้ อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ได้สกัดกั้นไม่ให้ตนและมวลชนชาวไทยขึ้นไปพิทักษ์รักษาผืนแผ่นดินไทยในพื้นที่ 4.6 ตร.กม.เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ตนและสมาชิกจะอดอาหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการขับไล่รัฐบาลให้ออกไปให้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะเดียวกัน ภายในบริเวณหมู่บ้านภูมิซรอล หมู่ 2 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านภูมิซรอลกลุ่มหนึ่งต่างพากันนอนไม่หลับ เนื่องจากหวาดผวาภัยสงครามบริเวณเขาพระวิหาร ดังนั้น จึงได้พากันมานั่งจับกลุ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับปัญหาเขาพระวิหาร ซึ่งศาลโลกจะมีการพิพากษาในวันที่ 11 พ.ย.56 นี้ ซึ่งชาวบ้านภูมิซรอลต่างยืนยันว่าจะไม่พากันอพยพไปอยู่ที่อื่น เพราะที่นี่คือบ้านเกิดของพวกตน หากอพยพไปก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ดังนั้น จึงจะพากันปักหลักอยู่ที่นี่ตลอดไป แต่ว่าก็หวาดกลัวภัยสงครามไทย – กัมพูชา ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และขณะนี้ทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธหนักก็ได้มาตรึงกำลังตามแนวชายแดนและรอบบริเวณเขาพระวิหารแล้ว ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ต.ค.56 ที่ผ่านมา