คนสุพรรณฯร่วมจับมารศาสนามั่วสีกากีคากุฎิ

คนสุพรรณฯร่วมจับมารศาสนามั่วสีกากีคากุฎิ

เมื่อเวลา 00.20 น.วันที่ 7 พ.ย. พ.ต.ท.สุมนตรี กรรณเลขา รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ว่า

มีชาวบ้านชุมชนวัดไทรย์ ต.ท่าระหัด ช่วยกันล้อมจับพระมั่วสีกาคากุฏิ จึงพร้อมด้วย ร.ต.อ.ธรณ์ธันย์ พิทักษ์วงศ์ รอง สว.สส. และ ร.ต.อ.ณัฐวุฒิ ราศรี รอง สวป.นำกำลังไปตรวจสอบที่ลานหน้ากุฏิพระปลัดไพศาล พลวฑฺฒโน เจ้าอาวาส มีชาวบ้านและหน่วยกู้ภัยเณรแก้ว จำนวนหนึ่งยืนจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ และที่กุฏิชั้นล่างซึ่งเป็นกุฏิที่พระวรเทพปิยะเทโว อายุ 60 ปีพักอยู่มีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่กู้ภัยอีกจำนวนหนึ่ง ยืนคุมเชิงอยู่ที่หน้าประตูภายในห้องพบพระวรเทพ อยู่กับหญิงสาวทราบชื่อ น.ส.อรทัย ดำคำพา อายุ 31 ปี

เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านจำนวนมากกรูกันเข้าไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงห้ามไว้กลัวว่าชาวบ้านจะรุมทำร้าย พร้อมตรวจสอบในกุฏิพบบะหมี่กึ่งสำเร็จอาหารและชามข้าววางอยู่บนเตียง และที่ตู้เย็นในห้องยังมีเบียร์แช่อยู่อีก 2 ขวด

จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นิมนต์พระปลัดไพศาล เจ้าอาวาสให้มาดู และให้คำแนะคำว่าการกระทำของพระวรเทพ นั้นไม่ต้องทำพิธีลาสิกขาเนื่องจากปาราชิกขาดจากการเป็นพระเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ทางด้านพระวรเทพ กลับไม่มีอาการสะทกสะท้านพร้อมกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ เรื่องใหญ่และก็ไม่ผิดกฏหมายด้วย ไม่ต้องลาสิกขาเปลี่ยนผ้าเป็นฆารวาสได้เลยเจ้าหน้าที่ตำรวจึงควบคุมไปที่โรง พัก

จากการสอบถาม น.ส.อรทัย กล่าวว่า เป็นอดีตผู้ช่วยพยาบาล แต่มีปัญหาส่วนตัวจึงลาออกมาขายกล้วยทอดอยู่หน้าวัดไทรย์ และได้รู้จักกับพระวรเทพ

จากนั้นได้พัฒนาความสัมพันธ์แล้วชอบพอกันพระวรเทพ ได้ให้เงินตนไว้ใช้จ่ายอย่างสบาย จึงคิดว่ารักกับพระดีกว่า เพราะพระมีเงินเยอะมีเงินให้ใช้จ่ายอย่างสบาย และเมื่อประมาณเดือนกว่าได้มีการนัดเจอและมีเพศสัมพันธ์กันที่กุฏิโดยตนจะ เป็นฝ่ายเป็นฝ่ายขี่จักรยานต์มาหาพระวรเทพ ที่กุฏิในช่วงกลางคืนเรื่อยมา

ด้านชาวบ้านชุมชนวัดไทรย์ กล่าวว่า ชาวบ้านทนเห็นพฤติกรรมไม่ไหวเนื่องจากช่วงกลางวัน ทั้งสองมักไปนั่งที่ร้านอาหารไม่ไกลวัดทำตัวสนิทสนมเหมือนสามีภรรยากัน จึงช่วยกันจับตาดูจนทราบแน่ชัดว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์กันในกุฏิ จึงพากันมาดักและจับได้คาหนังคาเขา หลังถูกจับได้ทั้งพระวรเทพ และ น.ส.อรทัย ต่างยอมรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มทั้งสองฝ่ายว่า เรารักกันและจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ชาวบ้านต่างพากันสาปแช่งทั้งสองเนื่องจากทำให้วัดเสื่อมเสียชื่อเสียงเจ้า หน้าที่ตำรวจจึงนำตัวไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมปล่อยตัวไปเนื่องจากไม่สามารถเอาความผิดได้ผิดแค่วินัยสงฆ์


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์