
จากกรณีตำรวจสภ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา พบศพนิรนามถูกเผาไฟบนกองไม้ในป่าเต็งรังใกล้ป่าอ้อยห่างจากถนนลูกรังเชื่อมบ้านห้วยโจด กับบ้านหนองปรือ ต. บัวใหญ่ เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา กลายสภาพเป็นชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะ กระดูกแขน ขา และกระดูกสันหลัง รวมทั้งเศษเสื่อทอด้วยต้นกกที่ชาวบ้านปูนั่งหรือนอน พวงกุญแจรถยนต์ เบื้องต้นคาดว่าผู้ก่อเหตุฆ่าบนรถแล้วลากศพมาเผาทิ้งอำพราง นั้น
เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ชุดสืบสวนสภ.บัวใหญ่ ได้สืบสวนจนทราบว่า ผู้ที่ถูกฆ่าเผาอำพรางคือเด็กสาววัย 15 ปี บ้านอยู่หมู่ 5 ต.กำแพง อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด ขณะนี้ตำรวจได้นำญาติพี่น้องมาตรวจดีเอ็นเอยืนยันชัดเจนแล้ว
ด้านพล.ต.ท.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา ผบช.ภ.3 กล่าวว่า ได้เข้าสอบสวนผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุ โดย พ.ต.ท.ภูมิ ทองโพธิ์ รอง ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.3 หัวหน้าชุดจับกุม ติดตามจับกุมมาได้ 2 ราย คือ นางประเดิม หรือนา เศษศรี หรือ ธีรเวทิน อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 180 หมู่ 7 ต.บัวลาย อ.บัวลาย จ.นครราชสีมา และน.ส.สอาด หรือนอ แฟมไธสง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 หมู่ 7 ตำบลเดียวกัน ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ที่ อ.สะเดา จ.สงขลา
พร้อมตรวจยึดรถกระบะ วีโก้แค็ป สีบรอนซ์ ทะเบียน 5186 นครราชสีมา ของนางประเดิมได้ แต่เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ และไม่ให้ความร่วมมือในการให้ปากคำ ยืนยันจะให้การให้ชั้นศาลเท่านั้น
ขณะที่พ.ต.ท.ภูมิ กล่าวว่า เบื้องต้นมีหลักฐานชัดเจน ทั้งกล้องวงจรปิดจุดต่าง ๆ ตามเส้นทางที่หลบหนี รวมทั้งพยานบุคคล และรถยนต์ที่ก่อเหตุ เบื้องต้นยังไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้ เกรงจะกระทบกับรูปคดี แต่จากการสืบสวนพบว่า ทั้งคู่พัวพันแก๊งค้ามนุษย์ โดยนางประเดิม ถูกดำเนินคดีในข้อหาเป็นธุระจัดหาฯ เมื่อปี 54 หลังจากถูกจับกุมแล้ว ถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในข้อหาค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นข้อหาหนัก โดยในคดีดังกล่าว ผู้ตายอยู่ในฐานะเป็นเหยื่อและพยานในคดี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างต่อสู้กันในชั้นศาล
ดังนั้นผู้ตายน่าจะมีส่วนรู้เห็น หรือเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าว รวมทั้งการให้การของผู้ตายน่ามีผลต่อการตัดสินในคดีจึงถูกฆ่าปิดปาก แม้ขณะนี้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธ แต่จากพยานหลักฐานมี่มีเชื่อว่าสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งคู่ได้ เนื่องจากมีพยานบุคคลเห็นผู้ต้องหาทั้งสองเป็นคนไปรับผู้ตายออกมาจากบ้านที่ จ. ร้อยเอ็ดเมื่อวันที่ 27 ต.ค. ก่อนหายตัวไปก่อนที่จะมาพบเป็นศพ ทำให้เป็นหลักฐานสำคัญในการออกหมายจับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบประวัติพบว่าทั้งคู่ เคยถูกจับในคดียาเสพติด และไปรู้จักกันในคุก ก่อนที่จะพ้นโทษออกมา และมาเปิดร้านคาราโอเกะที่ อ.บัวใหญ่ โดยผู้ตายมาทำงานอยู่ที่ร้านดังกล่าว และเข้าไปพัวพันกับการค้าประเวณี ก่อนที่นางประเดิมจะถูกจับกุมได้ ถูกแจ้งความในข้อหาเป็นธุระจัดหา เมื่อปี 54 และถูกแจ้งความเพิ่มเติมในเวลาต่อมาในข้อหาค้ามนุษย์ฯ ซึ่งถือเป็นคดีร้ายแรง โดยมี ผู้ตายเป็นส่วนสำคัญในฐานะพยาน คนสำคัญ ที่มีผลในการตัดสินคดีดังกล่าว จึงถูกฆ่าเผาอำพราง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ล่าสุด ญาติผู้ตายได้เดินทางมาจาก จ.ร้อยเอ็ด เพื่อมารับศพไปบำเพ็ญกุศล โดยมี มูลนิธิ ฮุก 31 จุดบัวใหญ่ ช่วยอำนวยความสะดวก ในการเข้ารับชิ้นส่วนศพจาก ร.ต.อ.บัญชา ปะจง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี
อย่างไรก็ตามในการบำเพ็ญกุศล ญาติเห็นว่าหากนำศพไปที่ บ้านเกิดจะยุ่งยาก เนื่องจากสภาพศพไม่สมบูรณ์ ประกอบกับฐานะยากจน จึงให้มูลนิธิฯ ช่วยจัดหาสถานที่บำเพ็ญกุศลโดยทำพิธีฌาปนกิจศพที่วัดนานิยม อ.บัวใหญ่ นำเพียงอัฐิกลับบ้านเกิดเท่านั้น.
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว