ชาวบ้านเร่งซ่อมหลุมหลบภัย นักเรียนซ้อมหลบภัย

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดสุรินทร์ 

หลังใกล้ถึงวันที่จะมีการตัดสิน กรณีพื้นที่ทับซ้อนที่ปราสาทพระวิหาร ในวันที่ 11 พ.ย. นี้ ว่า ชาวบ้านแต่ละแห่งต่างเฝ้าฟังข่าวจากเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง และมีการเตรียมความพร้อมไว้ หากเกิดสถานการณ์รุนแรงขึ้น ชาวบ้านพร้อมอพยพได้ทันที เช่นที่บ้านตาเมียง หมูที่ 1 ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ที่อยู่ไม่ไกลจากปราสาทตาเมือนธม และเป็นหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะกันเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา 

ชาวบ้านในหมู่บ้านต่างพากันออกมาซ่อมแซมหลุมหลบภัยของหมู่บ้านให้มีความแข็งแรงมากขึ้น 

โดยหลุมหลบภัยดังกล่าวสร้างขึ้นตามหมู่บ้านตามแนวชายแดนเมื่อครั้งเกิดการปะทะกันของทหารไทยและกัมพูชาเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาส่วนที่ปราสาทตาควาย ต.บักได และปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก ชาวบ้านบริจาคเงินสมทบซ่อมแซมปรับปรุงหลุมหลบภัยร่วมกัน ใช้เวลาอีก 2-3 วันถึงจะซ่อมแซมเสร็จ 

โดยยังขาดแคลนถุงปุ๋ยบรรจุดินอีกจำนวนมาก แต่ยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยื่นมือมาสนับสนุนและช่วยเหลือแต่อย่างใด 

คาดว่าอยู่ระหว่างประสานกับ อ.พนมดงรัก เพื่อสนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือ ซึ่งขณะนี้ทั่วไปขณะนี้ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตตามปกติ แต่มีความกังวลบ้าง และมีการเตรียมความพร้อมไว้อย่างเต็มที่ หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงตามแนวชายแดน ก็พร้อมอพยบได้ทันที

เช่นเดียวกับที่โรงเรียนบ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก เป็นโรงเรียนขยายโอกาส สอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีนักเรียนกว่า 400 คน ถือว่าอยู่ใกล้ปราสาทตาเมือนธมมากที่สุด ครูและนักเรียนได้ทำความสะอาดหลุมหลบภัยในโรงเรียน และซ้อมนักเรียนวิ่งเข้าหลุมหลบภัยอย่างต่อเนื่องก่อนเลิกเรียนกลับบ้าน เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเด็กๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จนถึงขณะนี้สถานการณ์ชายแดนทั่วไปด้านจังหวัดสุรินทร์ยังคงเป็นปกติ ทหารทั้ง 2 ฝ่าย ต่างอยู่ในที่มั่นของตัวเอง ปราสาทตาควายและปราสาทตาเมือนธม นักท่องเที่ยวยังคงเดินทางไปเที่ยวได้เป็นปกติ แต่จะมีการเข้มงวดมากขึ้น