พลิกล็อค!ยายถ่ายติดพญานาค คาดเป็นเพียงหัวไม้เท้าชาวบ้าน

พลิกล็อค!ยายถ่ายติดพญานาค คาดเป็นเพียงหัวไม้เท้าชาวบ้าน

30 ต.ค. 56  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วง 2 -3 วันที่ ผ่านมาได้มีข่าวว่า  มีชาวบ้านตาล หมู่ 7 ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม 

 สามารถถ่ายภาพติดพญานาคบริเวณสระน้ำใน วัดแสงอุทัยสิริพัฒนาราม  บ้านตาล จนกระทั่งมีการนำเสนอผ่านสื่อเป็นที่ฮือฮา  ทำให้ชาวบ้านทราบข่าว  จึงแห่ไปรอดูพญานาค บริเวณสระน้ำกันคึกคัก ตลอด 2 -3 วันที่ผ่านมา เนื่องจากเชื่อว่าจะมาปรากฏกายให้เห็นอีก  แต่ภายหลังทางด้าน นายสนั่น  บุตรจันทร์ นายก องค์การบริหารส่วนตำบลนาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม   พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง แกนนำชาวบ้าน  จึงได้เข้าพิสูจน์ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันการสร้างกระแส หรือทำให้ชาวบ้านงมงาย  ซึ่งพบว่า บุคคลที่อ้างว่า ถ่ายติดภาพพญานาค คือ นางแก้ว  พรมทอง  อายุ อายุ 67 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 215 หมู่ 9 ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม  ซึ่งเป็นน้องสาวของ  พระอธิการประสงค์  ทีฆายุโก  อายุ 76 ปี เจ้าอาวาสวัดวัดแสงอุทัยสิริพัฒนาราม  บ้านตาล  

และจากการตรวจสอบกับ ไม่พบโทรศัพท์เครื่องที่ใช้ถ่ายภาพต้นฉบับ   เพราะเจ้าของระบุว่าลืมที่เก็บ  และภาพต้นฉบับที่ถ่ายพบนั้น ได้ลบทิ้งไปแล้ว
 
เนื่องจากอ้างว่ามีความรำคาญหลังมีคนแห่มาขอดูเยอะมาก พร้อมยืนยันว่าสามารถถ่ายภาพได้จริง   แต่ไม่ได้ยืนยันว่าเป็นพญานาค  เพียงพบลักษณะคล้ายงู และไม่พบมีการเคลื่อนไหว  ซึ่งเกิดความตกใจถ่ายภาพได้จึงไม่ได้สังเกตในรายละเอียด  จนกระทั่งมีการสืบเสาะหาค้นพบว่า ภาพถ่ายติดงูคล้ายพญานาคมีลักษณะคล้ายกับไม้เท้าหัวพญานาคของชาวบ้านในหมู่บ้านมาก  จึงเชื่อว่ามีการฉวยโอกาสสร้างภาพตามกระแสความเชื่อ เพื่อให้เกิดความฮือฮา  

พลิกล็อค!ยายถ่ายติดพญานาค คาดเป็นเพียงหัวไม้เท้าชาวบ้าน

ขณะเดียวกันหลังตกเป็นข่าว ภายในวัดพบว่ามีประชาชน ที่ทราบข่าว  จำนวนมาก ต่างเดินทางมารอเฝ้าชม พิสูจน์ การพบพญานาค  

และมีการนำภาพถ่ายมาขยาย ให้บูชาแผ่นละ 50 บาท  นำไปเป็นสิริมงคล ตลอดจนทำบุญบริจาค   และยังส่งผลให้มีบรรดาพ่อ ค้า แม่ค้า  นำสิ่งของ สินค้า เครื่องดื่ม อาหารมาขาย  สร้างรายได้  เนื่องจากมีประชาชนเดินทางมารอพิสูจน์ ต่อเนื่อง  บางรายไม่ยอมไปทำมาหากิน เพราะมารอลุ้นพิสูจน์พญานาค
           
 แต่จากการสอบถาม นางแก้ว  พรมทอง  อายุ อายุ 67 ปี  เล่าถึงที่มาของภาพถ่ายติดพญานาคว่า เมื่อประมาณ 2 วันที่ผ่านมา  

ตนได้ไปทำบุญที่วัดตารมปกติ  ขณะจะเดินทางกลับบ้านจึงเดินลงไปฉี่บริเวณข้างสระน้ำจุดที่เป็นข่าวฮือฮาว่าพบพญานาค   จึงพบสิ่งแปลกรูปร่างคล้อยงูแผ่เบี้ยชูคอ อยู่ใกล้กับตอไม้ ริมสระน้ำในวัด จึงเอาโทรศัพท์มือถือที่ตนใช้ติดตัวประจำ และมีความชำนาญสามารถถ่ายภาพได้  ถ่ายภาพไว้ และวิ่งหนีออกมาด้วยความตกใจ  แต่ไม่พบว่างูในภาพมีการเคลื่อนไหว เห็นเพียงชูคอแผ่เบี้ยเท่านั้น  จนกระทั่งนำมาให้ชาวบ้านดู  และมีการนำภาพไปเผยแพร่และเป็นข่าวฮือฮา  จนมีคนแห่มาดูเชื่อว่าเป็นภาพพญานาค  โดยตนไม่ได้ยืนยันว่า สิ่งที่พบเป็นพญานาค หรือสิ่งมีชีวิต  แต่เห็นแปลกดีจึงได้ภาพมาดู  และไม่ได้สังเกต เพราะตกใจถ่ายรูปได้จึงวิ่งหนีออกมา ส่วนหลังจากนั้นใครจะนำภาพไปเผยแพร่ หรือเชื่อว่าเป็นภาพพญานาคที่มาปรากฏ กายตนก็ไม่รู้   แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละบุคคล ส่วนต้นฉบับนั้นได้ลบทิ้งแล้ว เพราะรำคาญมีคนมาขอดูจำนวนมาก
            
ด้าน  นายสนั่น  บุตรจันทร์ นายก องค์การบริหารส่วนตำบลนาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม   ในฐานะที่เป็นผู้ดูแลพื้นที่  กล่าวว่า
 
  หลังตกเป็นข่าว  ตนได้ร่วมกับตัวแทนชาวบ้าน เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาสิ่งยืนยันไม่ให้ชาวบ้านงมงาย  เนื่องจากมีการตรวจสอบภาพถ่ายแล้วเชื่อว่า สิ่งที่พบน่าจะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตและไม่ใช่สิ่งลี้ลับ  แต่ไม่ได้ลบหลู่ความเชื่อเรื่องพญานาค   ส่วนตัวก็เชื่อว่ามีจริง แต่สิ่งที่พบนั้นไม่ใช่ จึงต้องการให้ความกระจ่างกับชาวบ้าน  ก่อนได้ไปสืบเสาะหาพบว่า  มีไม้เท้าของชาวบ้าน รายหนึ่ง  ที่มีรูปร่างลักษณะเป็นงู คล้ายหัวพญานาค  จึงนำมาตรวจสอบ เทียบเคียง และพบว่ามีความคล้ายกันกับภาพถ่ายที่ชาวบ้านอ้างว่าถ่ายติดพญานาคมาก และเชื่อว่าภาพที่ถ่ายได้เป็นวัตถุ  ที่ไม่ใช่พญานาค หรืองู และสิ่งมีชีวิต  แต่สิ่งสำคัญคือต้องการให้ความชัดเจนกับชาวบ้าน  ไม่อยากให้งมงาย ส่วนใครจะเชื่อเรื่องพญานาค นั้น ก็แล้วแต่บุคคล  ยืนยันว่าน่าจะมีการสร้างภาพ ตามกระแสความเชื่ออย่างแน่นอน  

ส่วนที่มาหรือบุคคลที่มีส่วนรู้เห็นนั้นจะต้องตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง แต่ไม่อยากให้ชาวบ้านงมงายหลงเชื่อในทางที่ผิด  

และอาจเป็นโอกาสของผู้ไม่หวังดีเข้ามาฉวยโอกาสแวงประโยชน์จากกระแสความเชื่อ ส่วน  นางแก้ว  พรมทอง  อายุ อายุ 67 ปี   เจ้าของภาพถ่ายติดพญานาค นั้น ไม่มีเจตนาแน่นอน เพราะเจ้าตัวก็ยืนยันไม่ได้ระบุว่าถ่ายติดพญานาค แต่พบเป็นลักษณะคล้ายงู และไม่มีการเคลื่อนไหว จึงถ่ายเก็บไว้ดู ด้วยความตกใจ  ส่วนภายหลังจะมีคนถือโอกาสนำภาพดังกล่าวมาสร้างกระแสก็เป็นได้  เพราะก่อนหน้านี้มีความบังเอิญที่ชาวบ้านลือกันว่าพบพญานาค ในสระแต่ไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน แม้กระทั่งปัจจุบันโทรศัพท์มือถือที่ถ่ายภาพได้ยังไม่พบ และภาพต้นฉบับที่ถ่ายได้นั้นก็ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน  ซึ่งเมื่อได้นำไม้เท้ารูปงูแผ่เบี้ยไปเทียบเคียงในจุดที่ถ่ายภาพได้ ถือว่ามีความชัดเจนมาก ว่าเป็นอันเดียวกัน  ส่วนที่มาของการกสร้างกระแสต้องตรวจสอบอีกครั้ง

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์