เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.)
รับผิดชอบงานด้านการจราจร ได้ประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนในพื้นที่ กทม.ว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลจะเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการแก้ไขปัญหาจราจรให้เป็นรูปธรรมเรื่องมาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างเฉียบขาด ด้วยการยกรถที่จอดในที่ห้ามจอดออกจากผิวถนนในเส้นทางหลักเพิ่มอีก 50 สาย รวมเป็น 60 สายจากเดิมมีการนำร่องบังคับใช้กฎหมายเข้มข้นบนถนน 10 สาย ตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา ครอบคลุมในพื้นที่เพียง 23 สน.เท่านั้น โดยจะขยายวงกว้างออกไปอีกให้ครบ 88 สน. เริ่มดำเนินการจับจริงยกจริงอย่างจริงจังเด็ดขาดตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันที่ 1 พ.ย.เป็นต้นไป ผู้ที่กระทำความผิดจะต้องเสียค่าปรับในอัตรา 500 บาท และค่ารถยกขั้นต่ำอีก 500 บาทแล้วแต่ประเภทของรถ ซึ่งระยะ 6 วันนี้ ระหว่างวันที่ 26-31 ต.ค.อยู่ในช่วงเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร 57 สน. และเตรียมรถยกพร้อมอุปกรณ์เครื่องมือ และรณรงค์ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนทำความเข้าใจกับประชาชนผู้ใช้รถใช้ในพื้นที่
รองผบช.น. กล่าวต่อว่า ในหลักการปฏิบัตินั้นจะมีนายตำรวจระดับ รอง ผกก.จร. และสารวัตร รองสารวัตรจราจร
แต่ละ สน.ควบคุมดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด ภายใต้การกำกับดูแลของ ผกก.และ รอง ผบก.น.1-9 รับผิดชอบงานด้านการจราจรควบคุมการปฏิบัติให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยอีกชั้นหนึ่งไม่ให้ออกนอกลู่นอกแถว คุมเข้มไม่ให้มีการเรียกรับส่วยผลประโยชน์ใดๆ อย่างเด็ดขาด และจะสรุปผลการปฏิบัติมาตการนี้ทำให้รถคล่องตัวหรือไม่สามารถใช้ความเร็วในแต่ละเส้นเพิ่มขึ้นหรือลดลงมากน้อยแค่ไหนอย่างไรในช่วงเย็นวันนั้น