"พระเมธีธรรมาจารย์"เผยสังคมไทยรับการแสดงออก"มิตซูโอะ"ได้ยาก ชี้ควรหยุดพูด
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวกรณีอดีตพระมิตซูโอะ คเวสโก (ชิบาฮาชิ) พร้อมนางสุทธิรัตน์ มุตตามระ ภรรยา ออกหนังสือและเปิดเผยเรื่องราวชีวิตรักหลังลาสิกขาว่า ไม่ขอแสดงความคิดเห็น เพราะอดีตพระมิตซูโอะไม่ได้เป็นพระแล้ว เรื่องที่ออกหนังสือและมีการพูดเรื่องบนเตียง ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล ต้องปล่อยให้ทุกคนพิจารณาและตัดสินเองว่าเหมาะสมหรือไม่ ส่วนที่กลัวว่าจะมีการลอกเลียนแบบ หรือมีพระรูปอื่นทำเป็นแบบอย่างนั้น มองว่าคงไม่มีใครอยากทำแบบนี้
พระเทพวิสุทธิกวี เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย
กล่าวว่า เรื่องของอดีตพระมิตซูโอะควรจะจบได้แล้ว การที่อดีตพระมิตซูโอะออกมาพูดเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องเสียตัวเมื่อไหร่ ไปทำอะไรที่ไหนมาบ้างนั้น ถือว่าไม่เหมาะสม ควรจะหยุดพูด และไม่ควรออกมาพูดอะไรอีก เพราะยิ่งพูดจะยิ่งมีแต่เสีย คนเสื่อมศรัทธาเข้าไปอีก ที่สำคัญสื่อก็ไม่ควรจะไปสัมภาษณ์อีก เพราะถ้ายังให้ความสนใจ ก็จะเป็นการส่งเสริมให้การโปรโมตหนังสือประสบความสำเร็จ จึงเห็นว่าไม่ควรช่วยกันส่งเสริมเรื่องนี้อีก อยากฝากให้ทุกคนใช้วิจารณญาณเรื่องนี้ให้ดีด้วยว่าควรจะคิดเห็นอย่างไร
พระเถระเตือนมิตซูโอะ ไม่เหมาะจ้อเรื่องในมุ้ง เผยสังคมช็อคถึง2รอบ
พระพรหมสุธี (เสนาะ ปญฺญาวชิโร) รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ เจ้าคณะภาค 12 กล่าวว่า
เรื่องที่อดีตพระมิตซูโอะออกมาให้ข่าวว่าลาสิกขาออกมาแล้วถึงเสียความบริสุทธิ์นั้น เรื่องแบบนี้ไม่สมควรพูด แม้แต่ชาวบ้านธรรมดาก็ไม่พูดกัน เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ ส่วนเรื่องการลาสิกขาของอดีตพระมิตซูโอะนั้นคงไม่เป็นแบบอย่างให้พระรูปอื่นลาสิกขาไปทำแบบพระมิตซูโอะแน่นอน อย่างอาตมาฟังแล้วก็ไม่มีผลอะไร แต่อย่างไรก็ตามขอเตือนสติของคนที่ฟังข่าวรับข่าวสาร การออกมาให้ข่าวแบบนี้ เพื่ออะไร ที่เคยพูดไว้ก็คืออย่านับถือตัวบุคคล ให้นับถือคำสอนของพระพุทธเจ้า
พระเมธีธรรมาจารย์ (ประสาร) จนฺทสาโร รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) กล่าวว่า
ท่านเป็นคนต่างประเทศและมาบวชเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อชา เป็นนักบวชที่มีชื่อเสียง สังคมไทยรู้สึกช็อก พระที่บวชมาขนาดนี้แล้วทำไมวันหนึ่งตัดสินใจสึก และสาเหตุมาจากสตรีเพศ เป็นการช็อกความรู้สึกของคนไทยอยู่แล้ว วันนี้กลับมาพูดถึงเรื่องของคนสองคนของสามี-ภรรยา แม้แต่คนทั่วไปยังไม่เปิดเผยในที่สาธารณะ อย่างไม่เก้อเขิน ทำให้คนช็อก ในสองเพศของท่าน ทั้งเพศบรรพชิตและเพศฆราวาส แม้แต่ฆราวาสที่ไม่เคยบวชเรียนเขียนอ่านมาอย่างลึกซึ้ง ก็ยังมีความระมัดระวังในเรื่องนี้
"นอกจากนี้ท่านยังเขียนหนังสือ 2 เล่มสุดท้ายนั้น เล่มหนึ่งยังออกจำหน่าย อาตมาคิดว่ารายละเอียดในหนังสือที่ท่านเขียน เรื่องอย่างนี้ในสังคมไทยต้องระมัดระวัง ฐานะต่อชื่อเสียง อย่าให้มีอะไรรู้สึกมันเกินเลยไป อาตมาคิดว่าสังคมไทยรับในการแสดงออกของท่านได้ยาก" พระเมธีธรรมาจารย์กล่าว
พระอาจารย์หนูพรม สุชาโต เจ้าอาวาสวัดสุนันทวนาราม สาขาวัดหนองป่าพง อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
กล่าวถึงกรณีที่อดีตพระมิตซูโอะและนางสุทธิรัตน์ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ทางวัดสุนันทวนารามไม่อนุญาตให้ทั้งสองคนมาที่วัดแห่งนี้ว่า การที่พูดอย่างนั้นก็อยู่ในใจคนพูด ไม่เป็นไร ไม่ขอตอบดีกว่า เพราะตอบไปก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้น ที่ผ่านมาอาตมาเคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าหากจะกลับมาเยี่ยมเยียนที่วัดแห่งนี้ ทางวัดยินดีต้อนรับ
ส่วนกรณีอดีตพระมิตซูโอะและภรรยาออกมาพูดถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้น
พระอาจารย์หนูพรมกล่าวว่า ปล่อยให้เป็นเรื่องของสามีภรรยาเป็นเรื่องของบุคคล เมื่อถามว่าทั้งคู่ให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆ จะมีผลกระทบต่อวัดหรือไม่ พระอาจารย์หนูพรมกล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต อาตมาไม่รู้ เพราะเรื่องยังไม่เกิดขึ้น ทุกวันนี้ยังคงมีคณะเข้ามาปฏิบัติธรรมเดือนละประมาณ 3-4 คณะ และมาเป็นส่วนบุคคลก็มี แต่โดยรวมถือว่าผู้มาปฏิบัติธรรมน้อยลง ซึ่งทางวัดก็ดำเนินการตามปกติ และยังคงสอนทางธรรมตามปกติเช่นกัน
"สำหรับทรัพย์สินทางวัดก็ลดลงไปบ้าง เนื่องจากช่วงที่ท่าน (อดีตพระมิตซูโอะ) เป็นเจ้าอาวาสอยู่ จะมีญาติโยมมาที่วัดกันเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเมื่อผู้มาปฏิบัติธรรมลดลง ทรัพย์สินของทางวัดก็ต้องลดลงตามไปด้วย เป็นเรื่องธรรมดา" พระอาจารย์หนูพรมกล่าว และว่า วัดแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ขึ้นทะเบียนวัด วัดเป็นธรณีสงฆ์ ไม่ใช่เป็นทรัพย์สินของใครคนใดคนหนึ่ง