โวยแกล้งคนจนห้ามรถเก่าวิ่งในกทม.

เสียงค้านกระหึ่ม รอง ผบช.น. ยันยังไม่ห้ามรถ 10 ปีวิ่งใน กทม. แก้ปัญหาจราจร

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหาการจราจรไม่ใช่เพราะรถเก่า แต่เป็นเพราะนโยบายที่ผิดพลาดจากโครงการรถคันแรก ที่กระตุ้นให้เกิดความต้องการมีรถยนต์จนเกินความจำเป็นของประชาชน ทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมามากมาย

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ประเทศไทยปล่อยให้จอดรถได้ตามอำเภอใจ บนถนน ฟุตปาท หรือเอากรวยมาวางจองที่จอดได้ ก่อให้เกิดปัญหาการจราจรมหาศาล

“เรื่องนี้ทำไมรอง ผบช.น. ไม่คิดจะทำโครงการห้ามรถทุกคันมาจอดบนถนนสาธารณะแบบฟรีๆ เหมือนในญี่ปุ่นเขาทำ หรือกลัวว่าจะไปขัดตาปลาเจ้าใหญ่นายโตผู้มีอันจะกิน ก็เลยแสร้งไม่รู้ ไม่เห็น จึงมาคิดโครงการเล่นงานเอากับคนยากคนจน” โดยเฉพาะการคิดโครงการที่อาจจะนำไปสู่การละเมิดสิทธิของประชาชน อันเป็นการขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 29” นายศรีสุวรรณ กล่าว

นายสมชาย ตระกูลภิรมย์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มาสเตอร์ เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์ ผู้จำหน่ายรถยนต์มือสองแบบครบวงจร กล่าวว่า
 
เชื่อว่าผู้ประกอบการรถยนต์มือสองหรือรถยนต์เก่าคงได้รับผลกระทบในระยะสั้นเท่านั้น แต่คนที่ได้รับผลกระทบเต็มๆ คือประชาชนที่ต้องมาซื้อรถยนต์คันใหม่ใช้ และเชื่อว่าหากแนวทางดังกล่าวนำไปปฏิบัติจริงจะต้องมีแรงต้านจากประชาชนอย่างแน่นอน

พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. กล่าวว่า การเสนอเรื่องห้ามรถยนต์อายุ 10 ปีวิ่งใน กทม. ยังเป็นเพียงแนวคิดเท่านั้น ต้องเชิญผู้ประกอบการ ผู้ได้รับผลกระทบมาหารือพูดคุย ก่อนจะสรุปว่าจะมีการบังคับใช้หรือไม่ต่อไป

รอง ผบช.น. กล่าวว่า เตรียมยกเลิกมาตรการล็อกล้อกรณีผู้ขับขี่รถยนต์ฝ่าฝืนจอดในที่ห้ามจอด

แต่จะเดินหน้าโครงการยกรถที่จอดผิดกฎหมายออกจากผิวการจราจรแทน เพราะตรวจพบว่าเมื่อมีการล็อกล้อ เจ้าของรถจะยังไม่จ่ายค่าปรับและเคลื่อนย้ายทันที ส่งผลให้จราจรติดขัด ดังนั้น จะใช้โครงการยกรถแทนโดยเฉพาะที่ถนนทั้ง 10 สาย คือ ถนนลาดพร้าว พระราม 4 สุขุมวิท รัชดาภิเษก พหลโยธิน สาทรเหนือ-ใต้ เพชรบุรี และเพชรบุรีตัดใหม่ รามคำแหง ราชดำเนินกลาง และถนนวิภาวดีรังสิตเชื่อมกับถนนเกษตร-นวมินทร์ โดยจะบังคับใช้ได้ในช่วงต้นเดือน พ.ย.นี้ เบื้องต้นจะเปลี่ยนมาเป็นการลงโทษปรับไม่เกิน 500 บาท รวมทั้งเสียค่าเคลื่อนย้าย 500 บาท และค่าดูแลรถวันละ 200 บาท