เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.)
ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ลดลงแล้ว ส่วน อ.ศรีมหาโพธิ เริ่มลดลง ขณะที่อ.เมืองปราจีนฯ มีฝนมาตกเพิ่ม หาก 1 สัปดาห์จากนี้ไม่มีฝนตกเพิ่ม ระดับน้ำจะค่อยๆ ลดลง ตอนนี้ต้องดูแลพื้นที่เศรษฐกิจให้อยู่ก่อน โดยจะทำเขื่อนล้อม 3 เมือง คือ เทศบาลกบินทร์บุรี เทศบาลปราจีน เทศบาลศรีมหาโพธิ ภายใต้งบบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท เพื่อไม่ให้เหตุการณ์น้ำท่วมเมืองเหมือนครั้งนี้ นอกจากนั้นจะสร้างเขื่อนในลักษณะเดียวกับ จ.ปราจีนบุรี อีกประมาณ 50 อ.เมือง ทั่วประเทศ ทั้งนี้ยอมรับว่าสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.ปราจีนบุรีถือว่าหนักที่สุด และเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้
รองนายกฯ กล่าวอีกว่า ตนมีแนวคิดว่าในอนาคตการแก้ปัญหาน้ำในพื้นที่อาจจะต้องทำคลองลัดทุ่งบางพลวงความยาวประมาณ 56 กิโลเมตร
ใช้วงเงินประมาณ 3,000 ล้านบาท เพื่อไปลงแม่น้ำบางปะกงโดยตรง แต่ต้องศึกษาผลกระทบให้ชัดเจนก่อน สำหรับพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี วิธีจะแก้ปัญหาคือการทำเขื่อนที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2555 และจะแล้วเสร็จในปี 2557 จะช่วยให้พื้นที่ตัวเมือง อ.วารินชำราบ น่าจะปลอดภัย ขณะที่สถานการณ์ในน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี เ ถือป็นเขื่อนลูกผสมระหว่างเขื่อนใหญ่และกั้นแม่น้ำ ตอนนี้ปล่อยน้ำประมาณ 400 ลูกบาศก์เมตร ที่สูงสุดที่ลำน้ำตอนล่างของเขื่อนจะรับได้ และไม่มีอะไรที่วิกฤตหากไม่มีอะไรมาเติม
นายปลอดประสพ กล่าวว่า ส่วนพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุหวู่ติ๊บ ตนได้พูดคุยกับผู้ว่าฯหนองคาย มุกดาหาร นครพนม และสกลนคร
ทราบว่าได้รับผลกระทบน้อยกว่าที่คาดการณ์ เนื่องจากพายุลดกำลังเป็นหย่อมความกดอากาศ ดังนั้น ภาคอีสานตอนบนยังไม่มีอันตราย แต่ที่หวังว่าจะได้น้ำเพิ่มในเขื่อนสิริกิติ์ คงน้อยกว่าที่คาด และขณะนี้มีน้ำปริมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ อยู่ระดับปานกลางและภายใน 1 เดือน คาดว่าปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นในฤดูแล้งปีหน้าน้ำในลุ่มน้ำน่านน่าจะอยู่ในระดับที่พอใจ แต่ที่เราหวังว่าจะได้น้ำไปถึงเขื่อนภูมิพล จ.ตาก ที่ขณะนี้มีปริมาณน้ำประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ก็ไม่ได้ และจากนี้จังหวัดที่อาจได้รับผลกระทบจากการเคลื่อนตัวของพายุต่อไป คือเพชรบูรณ์ และอุตรดิตถ์ ซึ่งจะส่งผลน้อยกว่าภาคอีสาน
สำหรับพายุลูกใหม่ที่ก่อตัวขึ้นเป็นดีเปรสชั่น หมายเลข 22 เคลื่อนตัวไปทางประเทศไต้หวัน จึงไม่มีอันตรายกับไทย
และหากมีพายุเกิดขึ้นอีกในอนาคต คาดว่าจะเข้าไทยบริเวณตอนกลางและตอนใต้ ยอมรับว่าไทยยังไม่ปลอดภัยจากพายุฝน เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำ หรือร่องมรสุมจากทะเลอันดามันเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบกับจ.กระบี่ พังงา กาญจนบุรี
เมื่อถามถึงความร่วมมือระหว่าง กบอ.และกทม.เป็นอย่างไรบ้าง นายปลอดประสพ กล่าวว่า
ตอนนี้ได้รับความร่วมมือด้วยดีมาประมาณ 1 สัปดาห์ เพราะกทม.ยอมให้กบอ.ให้น้ำผ่านคลองทางตะวันตกและตะวันออกลงพื้นที่คลอง 13 คลองหกวา คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต และคลองด่าน แต่มีข้อตกลงถ้าฝนตกหนักจะหยุดระบายผ่านคลองในกทม.ชั้นใน เช่น คลองลาดพร้าว คลองบางเขน จึงขอบคุณกทม.ที่ให้ความร่วมมือ
ขณะที่น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไม่มีปัญหา เพราะตอนนี้มีน้ำเพียง 2,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งได้จำนวนสูงสุด 3,000 ลูกบาศก์เมตร
และการระบายน้ำตามเขื่อนต่างๆ จะไม่ส่งผลกระทบกับคนกทม. โดยสรุปหากไม่มีอะไรมาเติมก็ไม่น่าจะมีอะไร ซึ่งน้อยกว่าปี 2554 ที่มีปริมาณน้ำมากถึง 5,000 ลูกบาศก์เมตร ทำให้เกิดน้ำท่วม และต้องทำคลองผันน้ำออกไป อย่างไรก็ตามข้อกังวลว่าน้ำจะท่วมพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมใหญ่นั้น ไม่ได้รับผลกระทบ และพื้นที่นิคมในขณะนี้ โดยเฉลี่ยอยู่สูงกว่าระดับน้ำท่วม ขณะนี้ 20 เมตร
‘ปลอด’ ลั่นผุดเขื่อนล้อมกว่า 50 เมืองทั่วประเทศ อุ้มหนีน้ำท่วม
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ‘ปลอด’ ลั่นผุดเขื่อนล้อมกว่า 50 เมืองทั่วประเทศ อุ้มหนีน้ำท่วม