ไทยพุทธสงขลาฮือ ห้ามถอนกำลังทหาร พร้อมลุกสู้โจรใต้

พร้อมสู้ :


ชาวไทยพุทธ อ.สะบ้า จ.สงขลา กว่า 1พันคน รวมตัวชุมนุมที่ศาลาประชาคม อ.สะบ้าย้อย เพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อ พล.อ.ปานเทพ ภูวนารถนุรักษ์ ประธาน กมธ.ดับไฟใต้ สนช. โดยไม่ให้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่และอยากให้รัฐแจกปืนไว้สู้โจร

เมื่อเวลา 13.00น.วันที่ 26 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า


ประชาชนซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นชาวไทยพุทธในเขตเทศบาล ต.สะบ้าย้อย รวมถึงในพื้นที่ 9 ตำบลของ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา กว่า 1 พันคน ทยอยเดินทางมารวมตัวกันบริเวณศาลาประชาชนใกล้ที่ว่าการอำเภอสะบ้าย้อย ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจาก ก่อนหน้านี้ได้เกิดคดีมีกลุ่มคนร้ายลอบยิงและปาระเบิดใส่โรงเรียนปอเนาะบำรุงศาสน์วิทยา ในพื้นที่บ้านควนหรัน ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย ทำให้เด็กนักเรียนเสียชีวิต 2 คน และมีผู้บาดเจ็บอีก 8 คน

โดยเหตุการณ์ดังกล่าว


ได้บานปลายขยายเป็นความหวาดระแวงระหว่างกลุ่มชนกับภาครัฐ และกลุ่มชนชาวไทยมุสลิมกับชาวไทยพุทธ โดยมีการก่อม็อบของกลุ่มสตรีและเด็กมุสลิมในพื้นที่เพื่อกันไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ พร้อมยื่นขอเรียกร้องให้รัฐถอนกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในพื้นที่ออกจากพื้นที่ไปโดยเร็ว

ทั้งนี้ กลุ่มชาวไทยพุทธได้ยื่นข้อเสนอ


ต่อ พล.อ.ปานเทพ ภูวนารถนุรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อสอบสวนและศึกษาสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ที่เดินทางลงพื้นที่พอดี

ข้อเรียกร้อง คือ

1.ไม่ให้ถอนกำลังภาครัฐออกจากพื้นที่

2.ให้เพิ่มกำลังทหารพรานและตำรวจ

3.บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

4. ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็วและเท่าเทียมกันและ

5.จัดหาอาวุธให้ชาวบ้าน หากรัฐมาตอบสนองชาวบ้านจะหยิบปืนขึ้นสู้เอง

ซึ่ง พล.อ.ปานเทพ รับปากจะนำข้อเรียกร้องไปหารือกับภาครัฐต่อไป จากนั้นชาวบ้านจึงสลายตัวไป

ด้าน พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า


ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ ทางหน่วยได้กำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดเป็นพิเศษ โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้เคียงพื้นที่เคอร์ฟิว เพราะได้รับรายงานว่ากลุ่มแนวร่วมเริ่มหลบหนีออกนอกพื้นที่ หลังถูกเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังคุมเข้ม โดยตั้งแต่วันที่ 1เมษายนเป็นต้นไป จะส่งกำลังทหารพรานลงพื้นที่อีก 20 กองร้อย เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่ ขอให้เชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ได้

ขณะที่ นพ.มงคล ณ สงขลา รมว.กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า


ขณะนี้มีนักศึกษาแพทย์ที่จบใหม่ขอถอนตัวไม่ไปปฏิบัติหน้าที่ในชายแดนภาคใต้ กว่า 10คน จึงขอให้นักศึกษาแพทย์ที่ขอถอนตัวกลับไปทำงานในพื้นที่ตามความตั้งใจเดิม เพราะจะมีค่ามากกว่าทำงานในเมืองใหญ่

วันเดียวกัน ตำรวจ สภ.อ.เมืองยะลา


เข้าควบคุมตัว นายอาหามะ เจ๊ะแว อายุ 28ปี ภายในบ้านเลขที่57 ม.3 ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา หลังพบคราบเลือดภายในรถสี่ล้อเล็ก ซึ่งสงสัยเป็นคราบเลือดของคนร้ายที่ลอบวางระเบิดปั๊มน้ำมัน แต่พลาดท่าทำระเบิดถูกตัวเองจนแขนขาด ซึ่งอาจลอบฝังศพไปแล้ว แต่ นายอาหามะ ยังให้การปฎิเสธ ซึ่งจะต้องตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบอีกครั้งหนึ่ง

ด้าน ศ.ดร.อิมรอน มะลูลีม ผู้แทนจุฬาราชมนตรี


แถลงผลประชุมของคณะผู้รู้ศาสนาอิสลามเพื่อหาแนวทางดับไฟใต้ ซึ่งจัดโดยคณะกรรมาธิการวิสามัญดับไฟใต้ของ สนช.จนได้ข้อสรุป 10ข้อ อาทิ

การสาบาน(ซุมเปาะ)ต้องเป็นไปตามบทบัญญัติของศาสนาอิสลามจึงจะสมบูรณ์,

เงินเยียวยาที่เกิดจากเหตุไม่สงบไม่ถือเป็นมรดก,

การผ่าพิสูจน์ศพต้องอยู่ภายใต้คำวินิจฉัยของผู้รู้ทางศาสนา เป็นต้น

สำหรับเหตุร้ายรายวันในพื้นที่


เกิดขึ้นเวลา 21.45น.ของคืนวันที่ 25 มีนาคม โดยคนร้ายไม่ทราบจำนวน ซุ่มอยู่ริมถนนสาย410 (บันนังสตา-กรงปินัง)บ้านตาโล๊ะซูแม ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา ใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่รถยนต์ฮัมวี่ของเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจที่14 อ.ธารโต ขณะกำลังขับนำขบวนรถขนส่งกำลังเจ้าหน้าที่กลับไปยังพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นเหตุให้ จ.ส.อ.สมชาย น้อยจันทร์ อายุ 48ปี พลขับ ถูกยิงเจาะหน้าท้อง2นัดและหัวไหล่ 1 นัด อาการสาหัส ถูกนำตัวส่ง รพ.ศูนย์ยะลา เป็นการเร่งด่วนและอาการปลอดภัยแล้ว

ต่อมา เวลา 13.30น.วันที่ 26มีนาคม


ขณะที่ นายฮาเระ หะมาแย อายุ 50ปี กำนัน ต.สามัคคี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ขับรถเก๋งฮอนด้าซีวิค 3ประตู ออกไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนบ้าน เมื่อรถวิ่งมาถึงถนนสายรือเสาะ-สุวารี ม.1 อ.รือเสาะ คนร้ายซึ่งดักซุ่มอยู่ในป่าข้างทางใช้ปืนสงครามรัวยิงถล่ม กระสุนถูก นายฮาเระ ตายคาที่ ส่วนเพื่อนที่นั่งมาด้วย 1คน บาดเจ็บเล็กน้อย เชื่อว่าเป็นการสังหารกำนันที่ให้ความร่วมมือกับภาครัฐ จนสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มอาร์เคเค


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์แนวหน้า

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์