เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 29 ก.ย. 56 นายธนภัทร พงษ์ภมร ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่
พร้อมด้วย สัตวแพทย์หญิง ขวัญเรือน ดวงสะอาด ทีมวิจัยแพนด้าสวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมทีมสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การสวนสัตว์ นายสัตวแพทย์ ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ สัตวแพทย์หญิง ดร.อัมพิกา ทองภักดี และ นายสัตวแพทย์ ดร. ฉัตรโชติ ทิตาราม จากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เปิดแถลงข่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินงานการผสมเทียมแพนด้า หลินฮุ่ย เพื่อที่จะให้ได้น้องหลินปิง ที่ห้องประชุมอาคารสโมสรแพนด้า สวนสัตว์เชียงใหม่
นายสัตวแพทย์ ดร.บริพัตร ศิริอรุณรัตน์ เปิดเผยว่า ปกติแล้วเรื่องระดับฮอร์โมนนั้น หากหมีแพนด้ามีอาการเป็นสัด
จะพบว่าฮอร์โมนเอสโตรเจนจะมีค่าที่สูงขึ้น ส่วนระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโลนจะต่ำ ซึ่งทางทีมวิจัย ได้นำปัสสาวะของหลินฮุ่ยมาตรวจอย่างต่อเนื่อง กระทั่งในช่วงค่ำของวันที่ 26 ก.ย. เวลาประมาณ 21.00 น.เศษ พบว่าระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนของหลินฮุ่ย สูงสุดอยู่ที่ 52.88 แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็คาดว่าค่าดังกล่าวอาจจะสูงขึ้นอีกในตอนเช้า จึงได้รอ กระทั่งเวลา 04.00 น.ของวันที่ 27 ก.ย. ก็พบว่าระดับค่าของฮอร์โมนลดลงมาเรื่อยๆ จากนั้นเวลา 10.00 น.ก็ตรวจพบว่าระดับค่าฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำลงมาเหลือแค่ 26 และเวลา 12.00 น. ก็พบว่าค่าต่ำลงมาเหลือ 21 แต่สิ่งที่กลับกันคือค่าระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโลนที่จากเดิมมีค่าต่ำ กลับมีค่าที่สูงขึ้น ทำให้ทางทีมวิจัย มั่นใจว่าหลินฮุ่ยอยู่ในภาวะตกไข่อย่างแน่นอน จึงได้เริ่มทำการอดอาหารให้กับหลินฮุ่ย โดยเริ่มอดอาหารตั้งแต่เวลา 16.00 น.ของวันที่ 27 ก.ย. ซึ่งจะต้องอดอาหารให้อยู่ในระยะ 8 – 12 ชั่วโมง