พายุดีเปรสชันถล่มอีสาน-ตะวันออก อ่วมระนาว ซัดสุรินทร์ฝนตกหนักสุด 213 มิลลิเมตร จมมิดทั้งเมือง คาดพรุ่งนี้ประกาศหยุดเรียนในเขตเมืองทั้งหมด ส่วนยโสธรก็หนัก 101 มิลลิเมตร บุรีรัมย์ต้นมะขามยักษ์ถึงกับโค่น
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 19 ก.ย. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ "พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ " ฉบับที่ 13
โดยระบุว่า พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ได้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางแล้วเมื่อคืนนี้ และได้เคลื่อนตัวผ่านประเทศลาวเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณจ.อุบลราชธานีเมื่อเช้าวันนี้ และเมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณจ.สุรินทร์แล้ว หย่อมความกดอากาศต่ำนี้ยังคงเคลื่อนตัวทางตะวันตก คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าสู่จ.มหาสารคาม และนครราชสีมาในคืนนี้ และจะสลายตัวในบริเวณภาคกลางในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ย. 56)
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณจ. ร้อยเอ็ด สุรินทร์ บุรีรัมย์ มหาสารคาม นครราชสีมา ชัยภูมิ ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด มีฝนทั่วไป โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ในช่วงวันที่ 19-20 ก.ย. นี้
อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “อุซางิ” (USAGI) ซึ่งเป็นพายุอีกลูกหนึ่งทางด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์
ได้เปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนตัวมาทางตะวันตกค่อนทางเหนือ เข้าหาตอนบนของประเทศฟิลิปปินส์ และจะเคลื่อนตัวเข้าทะเลจีนใต้ในระยะต่อไป สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปประเทศฟิลิปปินส์ ควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางในระยะ 1-2 วันนี้ ทั้งนี้กรมอุตุนิยทวิทยา ยังรายงานด้วยว่า เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ฝนตกหนักในจ. ดังกล่าว โดยตกมากที่สุดในจ. สุรินทร์ 213 มิลลิเมตร รองลงมาที่ จ. ยโสธร 101 มิลลิเมตร ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังในหลายจุด
ขณะที่ผู้สื่อข่าวจากจ. สุรินทร์ ด้วยว่า หลังฝนตกหนักติดต่อกันมาตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. ต่อเนื่องถึงวันนี้ ล่าสุดเมื่อเวลา 21.50 น.
เกิดน้ำท่วมขังถนนในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ ถนนทุกสายจมน้ำสูงราว 40-60 ซม. ทำให้รถจยย.และรถยนต์กว่า 100 คัน จอดเสีย การจราจรเป็นอัมพาตทั้งเมือง ขณะที่บ้านเรือนประชาชนและสถานที่ราชการหลายแห่งโดยเฉพาะโรงเรียน อาทิ โรงเรียสุรินทร์วิทยาคาร โรงเรียนอนุบาลศิรินธร และวิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ ถูกน้ำท่วมสูงราว 50 ซม. เช่นกัน ส่วนรพ.สุรินทร์ ก็ถูกน้ำท่วมขัง แต่ยังไม่กระทบอาคารผู้ป่วย นอกจากนี้ยังมีไฟฟ้าดับหลายแห่ง ชาวบ้านเดือดร้อนจำนวนมากด้วย โดยขณะนี้ยังไม่มีทีท่าว่าฝนจะหยุดตก ทำให้น้ำไม่มีที่ระบาย คาดว่าโรงเรียนในเขตอ. เมือง จะประกาศหยุดการเรียนการสอนทั้งหมดในวันที่ 20 ก.ย. จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
เช่นเดียวกับที่ จ. ยโสธร ถนนหลายสายถูกน้ำเอ่อล้น เป็นอัมพาตเช่นกัน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ
ส่วนที่จ. บุรีรัมย์ เมื่อเวลา 18.00 น. ที่ผ่านมา หลังพายุฝนถนน เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมสถานบุรีรัมย์ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รพ.บุรีรัมย์ว่ามีต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่นทับรถยนต์ที่จอดไว้บริเวณบ้านพักเจ้าหน้าที่ภายในรพ. พังเสียหายหลายคัน จึงประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ไปตรวจสอบและช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านพักแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่รพ. พบเสาไฟฟ้าหักทับกลางหลังคารถตู้ของรพ. ที่นำเจ้าหน้าที่มาประชุม จนหลังคายุบ
ประตูและกระจกด้านซ้ายแตกเสียหาย ห่างออกไปประมาณ30 เมตร ยังพบต้นมะขามขนาดใหญ่อายุกว่า 60 ปีที่อยู่ใกล้บ้านพักแพทย์หักโค่นทับรถเก๋งฮอนด้า ของนางสุพัตรา ชลสาคร พยาบาลวิชาชีพ หน่วยส่งต่อผู้ป่วย เสียหายทั้งคันด้วย รวมทั้งยังมีรถอีกหลายคนถูกทับด้วย ต้องเคลียร์พื้นที่กันอย่างโกลาหล โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เพราะไม่อยู่ในรถขณะเกิดเหตุ.