วิกฤต “ลำตะคอง”แห้งขอดปล่อยได้ถึงสิ้นเดือน พ.ค.

วันนี้ ( 14 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่าใน จ.นครราชสีมา ยังคงไม่น่าไว้วางใจ

แม้ระยะนี้จะมีฝนตกลงมาบ้างแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่ช่วยให้ระดับน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะปริมาณน้ำในลำตะคอง อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่หล่อเลี้ยงชีวิตชาวเมืองโคราช ระดับน้ำเหลือน้อยมาก ยังคงน่าเป็นห่วง

ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผวจ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังจาก จ.นครราชสีมา ต้องเผชิญกับปัญหาภัยแล้งตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว

จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่น่าไว้วางใจ หลายพื้นที่ยังคงประสบภัยแล้งต่อเนื่องมายาวนาน โดยเฉพาะสถานการณ์น้ำท่าในเขื่อนขนาดใหญ่ 4 แห่งของโคราช ระดับน้ำในภาพรวมเหลือเพียง 265 ล้าน ลบ.ม. จากความจุ 938 ล้าน ลบ.ม.หรือร้อยละ 28 ขณะที่เขื่อนขนาดกลาง 22 แห่ง เหลือน้ำอยู่เพียง 76 ล้าน ลบ.ม. จากความจุ 226 ล้าน ลบ. หรือร้อยละ 33 เท่านั้น ถือว่าค่อนข้างน้อย เนื่องจากปีนี้มีปริมาณฝนลดลงจากปีที่แล้ว 30% จากที่เคยตกเฉลี่ยปีละ 110 มิลลิเมตร เหลือแค่ 80 มิลลิเมตร

ด้าน มล.อนุมาศ ทองแถม ผอ.สำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา กล่าวว่า
 
หลายฝ่ายแสดงความเป็นห่วงเรื่องปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำลำตะคอง ซึ่งถือเป็นเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงชาวเมืองนครราชสีมา ปัจจุบันมีน้ำเหลืออยู่เพียง 72 ล้าน ลบ.จากความจุ 314 ล้าน ลบ.ม.หรือร้อยละ 23 มีปริมาณน้ำที่ใช้การได้ 50 ล้าน ลบ.หรือร้อยละ 17% ถือว่าน้อยมาก อย่างไรก็ตามแผนการใช้น้ำในอ่างลำตะคอง ยังคงเน้นใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคเท่านั้น ไม่ได้มีการส่งน้ำเพื่อการเกษตรแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน แม้ว่าระยะนี้จะเริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว แต่ปริมาณยังค่อนข้างน้อย ไม่มีน้ำท่าไหลลงสู่ลำตะคอง

แต่ทางเขื่อนยังมีการระบายน้ำเพื่อส่งไปเพื่อผลิตประปาและบางส่วนสำหรับรักษาระบบนิเวศตามแนวลำตะคองในปริมาณ 15 ล้าน ลบ.ม.ต่อเดือน คาดว่าจะสามารถปล่อยน้ำได้ถึงสิ้นเดือน พ.ค.นี้เท่านั้น เมื่อคาดการณ์ตามสถิติแล้ว มั่นใจว่าช่วงปลาย พ.ค.-มิ.ย.เริ่มเข้าสู่หน้าฝน น่าจะมีฝนตกลงมา 20-40 มิลลิเมตร ก็น่าจะมีน้ำท่าไหลลงอ่างลำตะคองเพิ่มขึ้น น่าจะเบาใจได้มากขึ้น.