พายุถล่มร้อยเอ็ด-สารคาม อ่วม!บ้านเรือนพังนับร้อย ‘สามชุก’โดนด้วยยับเยิน

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม มีรายงานข่าวแจ้งว่าได้เกิดเหตุการณ์พายุฤดูร้อนฝนตกฟ้าคะนองพัดกระหน่ำและมีลมพายุหมุนกระโชกรุนแรง
 
ในหลายพื้นที่หลายจังหวัดทั่วประเทศได้สร้างความเสียหายบ้านเรือนของประชาชน โรงเรียนและวัดได้รับความเสียหายจำนวนมาก ปรากฏว่า ที่ จ.มหาสารคาม เวลา 3.00 น. ได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำ 3 หมู่บ้านคือ บ้านโนนแดง บ้านหัวหนอง และบ้านเหล่าตามา ใน ต.โนนแดง อ.บรบือ แรงพายุได้พัดหลังคาบ้านที่มุงด้วยสังกะสีปลิวหายไป สร้างความเสียหายกว่า 200

หลังคาเรือน ความแรงพายุของยังได้พัดฉีกกิ่งต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ของวัดอรัญญาวาส ขาดลงมาหลายกิ่ง
 
หลังคายุ้งฉางที่ใช้เก็บข้าวเปลือกและบ้านเรือนราษฎรลอยมาติดคาสายไฟฟ้า และยังมีเสาไฟฟ้าแรงสูงเอียง 4 ต้น ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างจากเหตุหลังคาบ้านปลิวทับสายไฟ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าต้องตัดไฟเป็นกันชั่วคราว ก่อนออกเร่งซ่อมแซมดันเสาไฟฟ้าให้กลับคืนสภาพเดิม ก่อนที่จะเร่งต่อไฟฟ้าให้กับราษฎรได้ใช้ไฟตามปกติ ในเวลาประมาณ17.00น. ถึงจะสามารถจ่ายไฟได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจและให้ความช่วยเหลือต่อไป

ขณะที่ จ.ร้อยเอ็ด นายประดิษฐ์ ศรีประสิทธิ์ นายอำเภออาจสามารถจ.ร้อยเอ็ด เผยว่าสถานการณ์พายุฤดูร้อน

พัดกระหน่ำด้วยความรุนแรงเมื่อประมาณ19.30น.รวมทั้งผลจากฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้างทำให้ป้ายโฆษณา ต้นไม้หักโค่น สังกะสีปลิวไปทั่วถนนสาข้างโรงพยาบาลอาจสามารถ ต้นไม้หักโค่นทับรั้ว กำแพงสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ หลังสถานีตำรวจภูธรต้นไม้หักโค่นและที่บ้านของนายอรุณ ชัฎพลชัย สมาชิกสภาจังหวัดร้อยเอ็ดต้นยางขนาด2-3 คนโอบได้หักโค่นทับบ้านเสียหายทั้งหลังโชคดีที่เป็นบ้านว่าง ไม่มีคนอาศัยอยู่ซึ่งได้สั่งการให้ ฝ่ายป้องกันฯอำเภออาจสามารถ สั่งการลงไปถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ออกสำรวจ ความเสียหายเพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป

ด้าน นายประวีณ แจ่มศักดิ์ นายอำเภอเมืองสรวง และนางพรทิพา ไชยรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลเมืองสรวง จ.ร้อยเอ็ด

ลงสำรวจความเสียหาย หลังพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำเมื่อคืนวันที่ 8 พ.ค.ในเขตเทศบาลตำบลเมืองสรวง บ้านเหล่าฮก บ้านป่าม่วง ต.หนองผือ บ้านผำ ต.เมืองสรวง บ้านเรือนประชาชนเสียงหาย150 หลังคาเรือน ยุ้งข้าว 20หลัง วัด 2 แห่ง โดยบ้านของนายบุญหนา ศรีตะวัน อายุ 42 ปีเสียหายหนักที่สุด คือถูกต้นยางใหญ่หักขาดลงทับบ้านทรงไทย ขนาดใหญ่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆเสียหายทั้งหลัง ยุ้งข้าวอีก 1หลัง โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

ส่วนที่จ.สุพรรณบุรี นายสมโภช โชติชูช่วง นายอำเภอสามชุก จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า
 
เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา หลายพื้นที่ใน อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี มีฝนตกฟ้าคะนองและลมพายุหมุนกระโชกรุนแรง ทำให้บ้านประชาชน โรงเรียนและวัดได้รับความเสียหายจำนวนมาก จึงสั่ง นายจิรเดช วงษ์คร้าย ปลัดอำเภอสามชุก หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงลงพื้นที่สำรวจ เบื้องต้นว่ามีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียมากกว่า 200 หลังคาเรือน จึงแจ้ง อบต.พื้นที่ไปช่วยเหลือพร้อมรายงานไปยังจังหวัดเพื่อขอความช่วยเหลือกับบ้านที่เสียหายหนักแล้ว

นายจักพรรดิ์ จิตมณี ผอ.สนง.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต3

เผยว่าเบื้องต้นพบ3โรงเรียนที่ได้รับความเสียหายคือร.ร.วัดหนองไผ่ หลังคาโรงเรียนเสียหาย ร.ร.วัดหนองโรง ต้นไม้ใหญ่ในบริเวณโรงเรียนหักโค่นหลายต้นและร.ร.วัดหนองผักนาก กระเบื้องหลังคาร.ร.เสียหาย หลังคาเส้นใยพลาสติกชายคาร.ร.เสียหายหมดและต้นไม้ใหญ่หักโค่นจำนวนมากจึงได้สั่งสำรวจความเสียหายเพื่อเตรียมให้ความช่วยเหลือแล้ว