น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยที่ประชุมได้ใช้เวลาหารือถึงการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ นานกว่า 50 นาที
รมต.ส่วนใหญ่แสดงความกังวลต่อจำนวนเสียงที่จะมาลงประชามติ เช่น นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย แจ้งต่อ ครม.ว่า จากทะเบียนผู้มีสิทธิลงคะแนนทั่วประเทศอายุเกิน 18 ปี มีจำนวน 46 ล้านเสียง ซึ่งจะมีการประกาศตัวเลขอย่างเป็นทางการสิ้นเดือนธันวาคมนี้ โดยจะมีผู้มีสิทธิอายุเกิน 18 ปี เพิ่มขึ้นอีก 7 แสนคน จะทำให้ผู้มีสิทธิ จำนวน 46.7 ล้านคน ดังนั้น การลงประชามติจะต้องมีผู้มาใช้สิทธิเกินกึ่งหนึ่ง หรือประมาณ 24 ล้านคน ถ้ามาใช้สิทธิไม่ถึง 24 ล้านเสียง ก็จะทำให้การประชามติตกไปทันที แต่ถ้ามาใช้สิทธิเกิน 24 ล้านเสียง ก็ต้องดูว่าจะมียอดผู้ลงคะแนนเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกินครึ่งหนึ่ง หรือประมาณ 12 ล้านเสียง หรือไม่
แหล่งข่าวจากที่ประชุม ครม.เปิดเผยว่า นายกฯ ได้ขอให้คณะทำงานไปช่วยกันรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเพื่อทำประชามติกันมากๆ โดยขอให้เน้นกับการให้ความสำคัญว่า "นี่คือการลงประชามติครั้งแรกของประเทศ ที่จะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตย" และต้องบอกกับประชาชนด้วยว่า ถ้าไม่ไปใช้สิทธิจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และจะเสียสิทธิทางการเมืองอย่างไร ที่สำคัญจะทำให้พลาดโอกาสสำคัญ เพราะนี่คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง