อปท.ลพบุรีเตือนจับตาคันกั้นเจ้าพระยาฝั่งตอ.พัง

อปท.ลพบุรีเตือนจับตาคันกั้นเจ้าพระยาฝั่งตอ.พัง จี้นายกฯคุมแบ่งน้ำ


วันที่ 12 ก.ย. นายศักดิพงศ์ ธรรมอาชวกุล ปลัดเทศบาลตำบลบางงา อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ในฐานะตัวแทนเครือข่าย อปท.ลพบุรี กล่าวว่า หลังจากที่สำนักงานชลประทานที่ 12 เตรียมระบายน้ำใต้เขื่อนเจ้าพระยา 1,800-2,000 ล้าน ลบ.ม./วินาที เนื่องจากอ้างว่าปริมาณเหนือเขื่อนมีปริมาณมากทำให้พื้นที่ใต้เขื่อนเจ้าพระยาตั้งแต่ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา เจอกับปัญหาน้ำล้นคันกันน้ำแน่ และทางชลประทานที่ 12 เตรียมแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ นั้น  รู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก และอยากให้ชาวจังหวัดลพบุรีได้ติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้ทางสำนักงานชลประทานที่ 12 เตรียมระบายน้ำน้ำใต้เขื่อนถึง 2,000 ล้าน ลบ.ม./วินาที ซึ่งก็จะเกิดมีปัญหาปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงสิงห์บุรี-อ่างทอง-อยุธยา รับน้ำได้แค่ 1,800 ล้าน ลบ.ม./วินาที จะทำให้ปริมาณน้ำล้นตลิ่งแน่นอน หากมีคันกั้นน้ำโดยถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงใดที่ชำรุดหรือซ่อมไม่เรียบร้อย อาทิเช่น พื้นที่ตำบลตลุก สรรพยา มีรอยแตกยาวหลายกิโลเมตรและประตูบางโฉมศรีเพิ่งจะดินใหม่ๆ ทำเป็นคันกั้นน้ำโอกาสที่จะปริมาณจะทำให้ดินพังมีสูงมากซึ่งได้แจ้งเตือนไปยังผู้รับผิดชอบทั้งกรมชลประทาน และกรมทางหลวงชนบทหลายครั้งแต่ไม่มีใครสนใจ

นายศักดิพงศ์  กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หรือคณะกรรมการ กบอ.มาดูแลในเรื่องการแบ่งน้ำช่วงตั้งแต่จากจังหวัดนครสวรรค์ก่อนถึงเขื่อนเจ้าพระยาซึ่งระยะการเดินทางของน้ำใช้เวลาเพียง 24 ชั่วโมง โดยมีประตูระบายน้ำทั้งฝั่งตะวันตกเจ้าพระยามีพื้นที่ชลประทาน 1,22 ล้านไร่ ศักยภาพระบายน้ำ 3 ประตู ประตูมะขามเฒ่า-อู่ทอง ประตูพลเทพและประตูบรมธาตุ รวมปริมาณระบายน้ำได้ 585 ล้าน ลบ.ม./วินาที ไหลลงแม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำน้อย  ส่วนฝั่งตะวันตะออกประตูมโนรมย์ และประตูคลองมหาราช ระบายน้ำได้ 275 ล้าน ลบ.ม./วินาที มีพื้นที่ชลประทาน 870,000 ไร่ อยากจะให้มีการแบ่งน้ำก่อนที่จะถึงเขื่อนเจ้าพระยามากกว่าที่จะใช้วิธีระบายน้ำใต้เขื่อน