กรมชลฯ เตือนจังหวัดเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

นายฎรงค์กร สมตน ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 12 เปิดเผยว่า

จากการติดตามสถานการณ์น้ำเมื่อวันที่ 10 ก.ย.55 พบว่า มวลน้ำหลากสูงสุดได้ไหลผ่านจังหวัดกำแพงเพชรแล้ว ด้วยอัตรา 1,327 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะนี้มวลน้ำดังกล่าวกำลังเคลื่อนตัวถึงจังหวัดนครสวรรค์ และคาดว่าจะเคลื่อนตัวถึงเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ในวันนี้ (11 ก.ย.) ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี และ ชัยนาท เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย

ส่วนด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา สำนักชลประทานที่ 12 จะบริหารน้ำเข้าระบบชลประทาน เพื่อเป็นการลดมวลน้ำและควบคุมให้น้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา

อยู่ในเกณฑ์ไม่เกิน 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ดังนั้น ด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง และ พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำจะทรงตัวและลดลง หากไม่มีฝนตกเพิ่มบริเวณตอนบนและตอนกลางของลุ่มน้ำ สถานการณ์น้ำจะเริ่มลดลงตามลำดับ และหากมีการเปลี่ยนแปลงจะรายงานให้ทราบเป็นระยะๆ

วันนี้ระดับน้ำเมื่อเวลา 09.00 น. เหนือเขื่อน +16.60 ม.รทก. ท้ายเขื่อน +13.97 ม.รทก. ระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 1,798 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ผู้สื่อข่าวได้ลงตรวจสอบพื้นที่ หมู่ 1 ตำบลตลุก อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา พบว่ามีบ้านเรือนที่อยู่ริมตลิ่งได้รับผลกระทบบางส่วนแล้ว สถานการณ์ขณะนี้น้ำทรงตัว ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้าน ทราบว่า ไม่ได้รับการแจ้งเตือนจากราชการแต่จะสังเกตระดับน้ำกันเอง โดยอีก 2 วัน คาดว่าน้ำจะไหลเข้าบ้านที่อยู่ริมตลิ่ง วันนี้จะเริ่มเก็บของหนีน้ำ อีกทั้งไปจับจองที่พักอาศัยชั่วคราวบริเวณริมคันคลองมหาราช ส่วนบ้านบางหลังกำลังก่ออิฐป้องกันน้ำเข้าบริเวณใต้ถุนบ้าน เพราะได้ดีดยกบ้านขึ้นไปสูง 1.5 เมตร เพื่อป้องกันบ้านโยกเอน