เตือน5จว.ภาคกลาง รับมือพายุ

เตือน5จว.ภาคกลาง รับมือพายุ



เตือน5จว.ภาคกลาง รับมือพายุ

สังเวยแล้ว3ศพ หนุ่มโดนฟ้าผ่า ลมซัดเฒ่าปลิว ฟาดต้นไม้ตาย


อุตุฯเตือน 5 จังหวัดภาคกลาง พายุฤดูร้อนโหมถล่มซ้ำ "เหนือ-อีสาน" เซ่นพายุแล้ว 3 ศพ "แพร่" พัดถล่มบ้าน-ยุ้งข้าวพังกว่าร้อยหลัง สลดซ้ำพ่อเฒ่าวัย 70 ปี โดนพายุซัดร่างปลิวกระแทกต้นไม้ดับ "พะเยา" ฟ้าผ่าหนุ่มชาวนาดับสยอง แถมร้อนตายอีก 1 "ขอนแก่น" ถล่มบ้านเละ 200 หลัง เสาไฟโค่นอีกนับสิบ "โคราช" เสาส่งสัญญาณวิทยุโค่นทับศาลาเก็บพระบรมธาตุเสียหาย แถมเสาไฟหักอีกอื้อ จนเมืองมืดโกลาหลนับชั่วโมง ภัยแล้งลามหนัก ลุ่มน้ำยมช่วงพิจิตรแห้งขอด จนเดินข้ามได้ ชาวบ้านขาดน้ำใช้นานนับเดือน

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัยพายุฤดูร้อน ฉบับที่ 10 ลงวันที่ 28 เม.ย. ระบุว่าความกดอากาศต่ำจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงยังคงปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณภาคกลาง ประกอบด้วย จ.นครสวรรค์ จ.อุทัยธานี จ.กาญจนบุรี จ.ลพบุรี และจ.สระบุรี จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับทะเลอันดามันและภาคใต้มีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุม ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางพื้นที่

สำหรับเหตุพายุฤดูร้อนเข้าพัดถล่มบ้านเรือนประชาชนในต่างจังหวัดที่จ.แพร่ นายเกษม วัฒนธรรม ผวจ.แพร่ รับรายงานสถานการณ์พายุพัดถล่มอำเภอสอง เมื่อคืนวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 34 หลัง โรงเรือนเลี้ยงสัตว์ 2 หลัง ยุ้งฉาง 60 หลัง ประกอบด้วย ต.สะเอียบ ต.เตาปูน ต.บ้านหนุน ต.ทุ่งน้าว ต.แดนชุมพล ต.ห้วยหม้าย และต.หัวเมือง นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านเสียชีวิต 1 รายคือ นายตาน เทพชัยวงศ์ อายุ 70 ปี อาชีพรับจ้างเฝ้าสวนตากข้าวโพด โดยขณะที่เกิดเหตุมีพายุพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง นายตานหลบเข้าไปในเพิงที่พัก แต่พายุพัดเอาเพิงที่พักพร้อมกับนายตานลอยไปปะทะกับต้นไม้ตกลงมากระดูกซี่โครงหัก ขาหัก สะโพกแตก อาการสาหัส หลังพายุสงบเพื่อนบ้านรีบนำส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ขณะที่จ.พะเยา พ.ต.ท.กฤตภาส ตาลาน สารวัตรเวร สภ.เมืองพะเยา รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 7 ถ.พหลโยธิน ต.เวียง อ.เมือง พะเยา จึงรุดตรวจสอบพบเป็นบ้านพักของศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดจังหวัด ภายในพบศพนายประสิทธิ์ คำแสนเดช อายุ 34 ปี ตรวจสอบตามร่าง กายไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย แพทย์ชันสูตรเบื้องต้นคาดสาเหตุเกิดจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันเพราะสภาพอากาศร้อนระอุ

อีกรายเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพนายทองสุข คำลือ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 223 หมู่ 6 ต.เชียงม่วน อ.เชียงม่วน จ.พะเยา ถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตกลางทุ่งนา สภาพศพถูกไฟไหม้ทั้งตัว ญาติแจ้งว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายเดินออกไปที่กลางทุ่งนากับเพื่อนบ้านหลายคน เมื่อเกิดฝนตกและฟ้าผ่าขึ้นเพื่อนผู้ตายต่างพากันหมอบลงกับพื้น เหลือแต่ผู้ตายที่ไม่ทันได้หมอบลงจึงถูกฟ้าผ่า สังเกตพบผู้ตายคาดเข็มขัดที่เป็นสื่อล่อกระแสไฟฟ้า ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ถูกฟ้าผ่า

ด้านนายประสิทธิ์ สมัคร นายกเทศมนตรีตำบลเชียงม่วน อ.เชียงม่วน กล่าวว่า จากเหตุการณ์พายุฤดูร้อนและพายุลูกเห็บพัดถล่มในพื้นที่ ทำให้บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1,966 หลัง พื้นที่การเกษตรอีก 1,300 ไร่ เบื้องต้นบ้านที่ไม่มีหลังคาได้ซ่อมแซมให้พออยู่ได้จนกว่าจะได้รับกระเบื้องแจกจ่าย

ที่จ.ขอนแก่น นายพยัต ชาญประเสริฐ รองผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นางสุพรรัตน์ แสงมาลี หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด (ปภ.) นำเจ้าหน้าที่สำรวจพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนชาวบ้าน โดยเฉพาะภายในม.ขอน แก่น หลังมีพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำรุนแรงมาก โดยพบเสาไฟฟ้าหักโค่น 10 ต้น แล้วล้มทับรถยนต์เสียหาย 3 คัน นอกจากนี้ ป้ายโฆษณาหลายแห่งในเขตเทศบาลนครขอนแก่นยังถูกลมพายุพัดล้มมาทับหลังคาบ้านและขวางถนนหลวง ขณะที่ป้ายขนาดเล็กต่างล้มระเนระนาดตามถนน

ส่วนในเขตพื้นที่ ม.2 และม.19 บ้านหนองโข่ย ต.ท่าพระ อ.เมืองขอนแก่น พบ บ้านเรือนเสียหายจากพายุฤดูร้อนรวม 18 หลัง บางหลังถูกพายุพัดพังทับรถยนต์และจักรยานยนต์ที่จอดใต้ถุนบ้านเสียหายยับเยิน ขณะที่หลังคาวัดโพธิ์ศรีบ้านหนองโข่ย ม.2 ถูกลมพายุพัดหลังคากระเบื้องแตกหักหลุดประมาณ 200 แผ่น ต้นโพธิ์อายุมากกว่า 200 ปี หักโค่นลงมาทับหลังคาบ้านใกล้เคียงเสียหายไปทั้งหลัง และมีต้นไม้ขนาดใหญ่อีกต้นหนึ่งอายุประมาณ 100 ปี หักโค่นลงขวางบนถนน

ด้านนางสุพรรัตน์เผยว่า จากการสำรวจความเสียหายพบบ้านเรือนถูกลมพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำไม่น้อยกว่า 200 หลัง ประเมินความเสียหายไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท เนื่อง จากบ้านเรือนหลายหลังถูกพายุพัดเสียหายทั้งหมด ซึ่งจะเร่งสำรวจและเสนอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบรับทราบเพื่อเข้ามาช่วยเหลือต่อไป

ที่ จ.บุรีรัมย์ พายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนใน 4 อำเภอ ทั้ง อ.เมือง อ.คูเมือง อ.ลำปลายมาศ และ อ.ประโคนชัย ส่งผลให้บ้านและยุ้งฉางเสียหายกว่า 800 หลัง รวมทั้งฟ้าผ่าควายตาย 1 ตัว นายพรเชษฐ์ แสงทอง ปภ.จังหวัดกล่าวว่า พายุดังกล่าวสร้างความเสียหายหนักให้กับทรัพย์สินและบ้านเรือนกว่า 800 หลัง โดยจะเร่งเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยเป็นการด่วน ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.มีพายุพัดถล่มแล้ว 8 ครั้ง บ้านเรือนเสียหายรวม 600 หลัง

ขณะที่จ.นครราชสีมา เกิดพายุฤดูร้อนและลมกระโชกแรงพัดถล่มพื้นที่ ต.หัวทะเล อ.เมือง นครราชสีมา ส่งผลให้เสาส่งสัญญาณ สถานีวิทยุกระจายเสียงพระพุทธศาสนา ม.มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หักโค่นได้รับความเสียหาย ที่สำคัญเสาส่งสัญญาณได้ล้มทับเสาไฟฟ้าและศาลาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุจนเสียหายเป็นอย่างมาก แต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ พายุฤดูร้อนยังพัดเสาไฟฟ้าและหม้อแปลงไฟฟ้าหักโค่นระเบิดหลายจุดในเขต อ.เมือง นครราชสีมา ส่งผลให้ไฟฟ้าดับในเขตตัวเมืองนานกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งซ่อมแซมอย่างโกลาหล

ด้านนายชวน ศิรินันท์พร ผวจ.นครราชสีมา กล่าวว่า นอกจากในพื้นที่ของจังหวัดต้องประสบกับพายุฤดูร้อนพัดถล่มในหลายพื้นที่ยังต้องพบอากาศร้อนเช่นกัน โดยจังหวัดประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้ว 29 อำเภอ 249 ตำบล มีประชากรได้รับความเดือดร้อน 830,061 คน 279,780 ครัวเรือน และพื้นที่การเกษตรกำลังประสบปัญหาภัยแล้ง 73,326 ไร่ เนื่องจากขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคและใช้ในการเกษตร ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นพื้นที่นอกเขตชลประทาน จึงสั่งการให้แต่ละอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งแจกน้ำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว 2.3 ล้านลิตร

สำหรับสถานการณ์ภัยแล้งที่ลุกลามในหลายจังหวัดที่จ.กาฬสินธุ์ น.พ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมช.สาธารณสุข เป็นประธานมอบป้ายตลาดดีเด่นระดับดีมาก 5 ดาว หรือตลาดสดน่าซื้อ ที่ตลาดสดทุ่งนาทอง เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และกล่าวว่าขอเตือนให้ชาวอีสานระมัดระวังการบริโภคอาหารในช่วงสภาพอากาศที่ร้อนแล้ง เพราะอาจป่วยเป็นโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคท้องร่วงและโรคบิด นอกจากนี้ สภาพอากาศที่ร้อนยังเสี่ยงที่จะเสียชีวิตด้วยโรคลมแดด

ที่จ.พิจิตร สถานการณ์ภัยแล้งยังทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะลุ่มน้ำยม ขณะนี้แห้งขอดจนเห็นพื้นทรายและสามารถเดินข้ามได้ สาเหตุมาจากสภาพอากาศร้อนมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ซึ่งปีนี้ถือว่าน้ำแห้งเร็วกว่าทุกครั้ง ส่งผลให้ชาวบ้าน ต.รังนก ม.2 อ.สามง่าม กว่า 75 ครัวเรือน รวม 400 คนไม่มีแหล่งน้ำสำรอง และต้องขาดแคลนน้ำต้นทุนการผลิตระบบน้ำประปาหมู่บ้าน รวมไปถึงน้ำในการอุปโภคบริโภคมานานกว่า 3 สัปดาห์

นายสุวรรณ ภู่ผกา กำนันตำบลรังนกกล่าวว่า ขณะนี้ชาวนาประสบปัญหาขาด แคลนน้ำใช้การปลูกข้าวกว่า 20,000 ไร่ อีกทั้งแม่น้ำยมแห้งเร็วกว่าทุกปีเนื่องจากอากาศร้อนจัด อีกทั้งชลประทานของจ.พิจิตร และจ.กำแพงเพชร ก็ไม่ปล่อยน้ำมาให้ ทำให้ ชาวบ้านเดือดร้อนมาก จึงขอให้ชลประทานช่วยผันน้ำลงมาช่วยชาวนาอย่างเร่งด่วน

ที่จ.อ่างทอง ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังไพรัตน์ ฟาร์ม ตั้งอยู่ ต.บางเจ้าฉ่า อ.โพธิ์ทอง ซึ่งเป็นฟาร์มเป็ดขนาดใหญ่แห่งหนึ่งและได้ประสบปัญหาจากอากาศร้อน เมื่อเดินทางไป ถึงพบคนงานกำลังเก็บเป็ดที่ตายออกจากเล้า

ด้านนายไพรัตน์ รุ่งสว่าง นายกอบต. บางเจ้าฉ่าและเป็นเจ้าของฟาร์มเป็ด กล่าวว่า ตอนนี้อากาศร้อนอย่างต่อเนื่องและส่งผลกระทบอย่างมาก ทำให้ขาดทุนวันละ 4 พันบาท และต้องจับเป็ดไปขายแล้วกว่า 7 พันตัว เพื่อแบ่งเบาปัญหาการขาดทุนและเป็ดเริ่มล้มตาย ที่สำคัญสภาพอากาศที่ร้อนยังทำให้เป็ดออกไข่น้อยลงร้อยละ 30 ของปริมาณไข่ที่เคยออก เนื่องจากสภาพอากาศร้อน ซึ่งทุกฟาร์มก็ประสบปัญหาลักษณะนี้ทั้งหมด

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์