คลื่นยักษ์ถล่มภาคใต้ หัวหิน-ชุมพร-สมุยยับ

วานนี้ (25 ธ.ค.) เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณพื้นที่หมู่ 12 ต.บางมะพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร

ได้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ ความสูงประมาณ 4-5 เมตร จากทะเลหลังสวนในอ่าวไทยพัดเข้าถล่มหมู่บ้าน ทำให้ประชาชนแตกตื่นหนีตายกันจ้าละหวั่น บ้านเรือนประชาชนกว่า 200 หลังคาเรือน ได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยนายปรีชา สุวีรานุวัฒน์ กำนัน ต.บางมะพร้าว ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดอยู่ภายในบ้านออกมาอย่างโกลาหล ก่อนรายงานให้ทางจังหวัดเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ต่อมานายอภิญญา คนดี ปลัดอาวุโส รักษาการนายอำเภอหลังสวน ได้สั่งการให้ชาวบ้านอพยพไปอาศัยที่วัดแหลมโตนดซึ่งเป็นจุดปลอดภัย

ท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวาย และแตกตื่นอย่างหนัก เนื่องจากถือเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดในรอบ 50 ปี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้บ้านพักของประชาชนกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ถูกน้ำทะเลไหลทะลักเข้าท่วมทั้งหมด โดยมีบ้านพักของประชาชนถูกคลื่นซัดพังถล่ม 3 หลังคาเรือน ขณะเดียวกันในพื้นที่ ต.ปากน้ำหลังสวน ต.บางน้ำจืด ใน อ.หลังสวน ยังถูกคลื่นยักษ์พัดถล่มเช่นกัน รายงานข่าวแจ้งว่ามีนักท่องเที่ยวติดอยู่บนเกาะพิทักษ์ หมู่ 14 ต.บางน้ำจืด หลายสิบคน ยังไม่สามารถติดต่อได้ สรุปจนถึงขณะนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชาวบ้าน ใน 3 ตำบล คือ ต.บางมะพร้าว  ต.ปากน้ำหลังสวน ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน ร่วม 2 พันคน ต้องอพยพออกมาในจุดที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ

ขณะเดียวกันที่ จ.สงขลา ตลอดแนวชายหาดแหลมสมิหลาระยะทางกว่า9 กิโลเมตร เกิดเหตุคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยซัดเข้าสู่ชายหาดตลอดทั้งวัน

โดยเฉพาะบริเวณรูปปั้นนางเงือกความแรงของคลื่นกินพื้นที่ลึกเข้ามาถึงแนวคอนกรีตสำหรับให้นักท่องเที่ยวยืนชมวิวซึ่งอยู่ห่างจากทะเลกว่า10 เมตร  เจ้าหน้าที่ต้องเตือนนักท่องเที่ยวทั้งชาวมาเลเซียและสิงคโปร์จำนวนมากที่เดินทางมาท่องเที่ยวบริเวณแหลมสมิหลาในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และไปออกไปถ่ายรูปคู่กับรูปปั้นนางเงือกให้รีบกลับเข้าขึ้นฝั่ง เพราะเสี่ยงที่จะถูกคลื่นซัดและได้รับอันตราย พร้อมกับแจ้งเตือนห้ามลงเล่นน้ำอย่างเด็ดขาด

ด้านชายหาดหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
 
ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เกิดมรสุมพัดเข้าชายฝั่งตลอดแนวตั้งแต่ท่าอากาศยานหัวหิน วังไกลกังวล ไปถึงหมู่บ้านเขาตะเกียบ ทำให้บริเวณดังกล่าวเกิดคลื่นลมแรง โดยเฉพาะบริเวณท่าเทียบเรือสะพานปลาหัวหิน มีคลื่นขนาดใหญ่ ความสูงประมาณ 4- 5 เมตร พัดเข้ากระทบชายฝั่ง ทำให้ชาวประมงต้องนำเรือประมงขนาดเล็กกว่า 100 ลำ นำมาจอดหลบหลังแนวเขื่อนกั้น และไม่สามารถออกหาปลาในช่วงนี้ได้
 

ขณะเดียวกันบริเวณชายหาดหัวหิน ตั้งแต่ศาลเจ้าแม่ทับทิม ไปถึงเขาตะเกียบ กลับไร้เงานักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำทะเล
 
เนื่องจากกลัวอันตรายจากคลื่นลมแรง อากาศหนาว และน้ำทะเลสีขุ่น ขณะที่ร้านอาหารติดชายหาดบางร้านก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะคลื่นได้ซัดน้ำทะเลทะลักเข้าท่วมในร้านจนไม่สามารถบริการลูกค้าได้ นอกจากนี้บริเวณตู้ยามบ้านเขาตะเกียบ เกิดน้ำท่วมขังสูงถึงราว 30 ซม. จนตำรวจต้องออกประชาสัมพันธ์ห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำในช่วงนี้

ส่วนที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้เกิดคลื่นขนาดใหญ่เช่นเดียวกัน โดยมีระดับความสูงประมาณ 3-4 เมตร
 
พัดกระหน่ำเข้ากระทบตลอดแนวชายฝั่งของเกาะอย่างรุนแรงในพื้นที่หมู่ 1 ต.มะเร็ต ทำให้บ้านเรือนของชาวประมงได้รับความเสียหาย 5 หลัง ขณะที่ใน ต.แม่น้ำ คลื่นซัดสู่ฝั่งจนร้านค้าตามแนวชายหาด ที่อยู่ด้านหลังแนวกั้นคลื่นพังเสียหายจำนวนมาก นอกจากนี้ บนถนนสายเลียบชายทะเล บ้านหน้าทอนหมู่ 3 ต.อ่างทอง ซึ่งเป็นถนนที่ใช้สัญจรผ่านออกจากเกาะสมุย น้ำทะเลได้หนุนสูง ซัดขึ้นมาบนถนนจนน้ำเอ่อท่วมขังราว 20-30 ซม.ทำให้รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรได้สะดวก

ทั้งนี้ ทาง พ.ต.อ.สำราญ มาเจริญ ผกก.สภ.เกาะสมุย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกประชาสัมพันธ์
 
เตือนประชาชน ที่ใช้เส้นทางดังกล่าวให้ใช้ความระมัดระวัง และจัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรอย่างเร่งด่วนแล้วผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวประมงได้นำเรือเล็กเข้าจอดในคลองต่างๆ เพื่อหลบมรสุม ซึ่งเรือที่บริการนักท่องเที่ยวออกไปดำน้ำดูปะการัง ต้องงดให้บริการทันที เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย

ต่อมานายประเสริฐ จิตรมุ่ง นายอำเภอเกาะสมุย สั่งการให้นายพูลศักดิ์ โสภณปทุมรัตน์ ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกัน อำเภอเกาะสมุย นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจพื้นที่เสียหาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการช่วยเหลือเบื้องต้น และแจ้งเตือนให้นักท่องเที่ยวอย่าตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ควรใช้ความระมัดระวังในการท่องเที่ยว.