ช็อค!หลังน้ำลด กรุงเก่าตลิ่งพังยาว เป็นเหวลึก4-5เมตร ติดคลองบางบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ว่า    ชาวบ้านจำนวนมากมาดูการทำงานของเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

ที่นำรถมายกเสาไฟฟ้าจำนวนหลายต้นที่จมลงในแม่น้ำพร้อมไปกับดินริมตลิ่งและถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ที่ถล่มจมลงในคลองบางบาล เขต ม.4 ต.กบเจา อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ภายหลังน้ำท่วมลดลง โดยเฉพาะเมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมามีการพังทลายของตลิ่งอย่างหนัก  และพบความเสียหายมีระยะทางกว่า 300 เมตรแล้ว และทำให้แนวการพังตั้งฉาก 90 องศากับผิวน้ำ จนกลายเป็นเหวลึกดิ่งลงกว่า 4-5  เมตร  และบางจุดพังจนถนนขาดหายไปทั้งเส้นและพังกินลึกกว่า 10 เมตรเข้ามาถึงแปลงนาของชาว จนสร้างความเสียหายจำนวนมาก

 ทั้งนี้ ลำคลองบางบาลถือเป็นลำคลองขนาดใหญ่ ที่เชื่อมระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำน้อย ที่มีกระแสน้ำไหลแรง โดยก่อนหน้านี้เกิดน้ำท่วมสูงในพื้นที่นานกว่า 3 เดือน และเมื่อน้ำลดตลิ่งได้พังลงมาอย่างน่ากลัว

นายอุทัย ขาวสำลี อายุ 70 ปี ชาวบ้าน ม.4 กล่าวว่า   พื้นที่ดังกล่าวถูกน้ำท่วมทุกปี แต่ปีนี้ท่วมหนักที่สุด เกิดมาก็เพิ่งจะพบว่าท่วมใหญ่ขนาดนี้  ซึ่งช่วงน้ำท่วมและหลังน้ำลดตลิ่งจะพังแบบนี้  โดยเฉพาะ 2-3 ปีล่าสุด แต่ปีนี้หนักที่สุด ก่อนหน้านี้ในปี 52 และ 53 ตลิ่งพังเข้ามาชิดถนน ระยะทางไม่ถึง 100 เมตร และหลวงเขาก็มาซ่อมแซมเพื่อชะลอการพังของดินรอมถนนที่ติดแม่น้ำ แต่พอปีนี้น้ำท่วมหนักและท่วมนาน  กระแสน้ำก็ไหลแรงมาก พอน้ำลดลง พบว่ากระแสน้ำได้พังตลิ่งเพิ่มยาวกว่า 300 เมตร และบางจุดได้ทำเอาถนนพังจมลงก้นตลองแบบทั้งเส้น และหนังน้ำลดตลิ่งก็ยังพังเพิ่มทุกวัน ชาวบ้านเดือนร้อนมาก  อยากให้มีการแก้ไขปัญหาแบบถาวร เพราะหากปล่อยไปจะพังเพิ่มเข้าไปในที่ตั้งบ้านเรือนของประชาชนและที่นาของเกษตรกร

ด้านนางมลทิพย์ ชุ่มโชคดี ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 กล่าวว่า จุดดังกล่าวเป็นโค้งน้ำและน้ำไหลแรงมากช่วงน้ำท่วมและก็ถูกน้ำท่วมสูงมากอีกทั้งท่วมนานกว่า 3 เดือน ก่อนหน้านี้น้ำท่วมใหญ่ปี 53 มีการพังไม่ถึง 100 เมตรจากนั้นได้ประสานงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่าง อบต.กบเจา สำรวจและเขียนแบบเขื่อนถาวร ประมาณการใช้งบ 10 ล้านบาท เสนอขอผ่านไปหน่วยงาน ทั้งผ่านจังหวัด และ อบจ.พระนครศรีอยุธยา แต่ไม่ได้ พอมาน้ำท่วมใหญ่ปี 54 พบว่าแนวการพังเพิ่มเป็น 300 เมตร และพังแบบรุนแรงเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวและปัจจุบันยังไม่หยุดพัง ทำให้ชาวบ้านร้อนใจเพราะเกรงจะเกิดอันตรายมากไปกว่านี้ เพราะถนนทั้งเส้นที่ใช้กันในตำบลก็พังลงน้ำไปแล้ว ต่อไปคงเป็นบ้านเรือนประชาชน และที่นาทำหรับทำกิน คงพังลงน้ำหมด อยากให้หน่วยงานใดก็ได้เข้ามาสำรวจอย่างจริงจังและผ่านงบประมาณมาดำเนินการสร้างเขื่อนป้องกันแบบถาวร เพื่อหยุดการพังของตลิ่งแบบสิ้นเชิง ซึ่งล่าสุดตนเองติดต่อไปยังมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ซึ่งรับปากว่าจะส่งนักวิชาการเข้ามาสำรวจศึกษาถึงสาเหตุที่แน่ชัดของการพังและแนวทางแก้ไขรวมถึงรวมออกแบบเขื่อนถาวร แต่งบประมาณคงต้องพึ่งหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบโดยตรงตามเดิม อาจเป็น งบจากรัฐบาล งบจากจังหวัด งบจากท้องถิ่น หรืองบจากกรมเจ้าท่าเป็นต้น