วันที่ 30 พ.ย. สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นใน จ.สงขลา
แม้ในภาพรวมจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วโดยเหลือเพียงในพื้นที่ลุ่มบริเวณริมทะเลสาบสงขลา แต่ปรากฏว่าได้สร้างความเสียหายให้กับหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่อยู่แนวลำคลองทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ ม.7 บ้านโคกเมา ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา กระแสน้ำได้กัดเซาะตลิ่งลึก 10 เมตร ยาวเกือบ 100 เมตร ทำให้บ้านเรือนพังเสียหาย ต้นทุเรียนและต้นลองกองทรุดลงไปในคลอง
นายมานพ หมัดอะดั้ม ชาวบ้านซึ่งที่ดินถูกน้ำกัดเซาะกล่าวว่าหวั่นว่าหากฝนตกซ้ำในช่วงต้นเดือน ธ.ค. น้ำอาจจะกัดเซาะที่ดินพังเสียหายเพิ่มขึ้นและถึงตัวบ้าน จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือ
นายโส เหมกุล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลาเปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัย วาตภัยดินถล่ม
ใน จ.สงขลาได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินเพิ่ม 2 อำเภอ คือ อ.บางกล่ำ และ อ.กระแสสินธุ์ จากเดิม 8 อำเภอเป็น10 อำเภอ 67 ตำบล 462 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 24,127 ครัวเรือน 63,487 คน อพยพ 519 คน เสียชีวิต 2 คน ส่วนความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้
นายโส เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังมีเฉพาะน้ำท่วมขังพื้นที่ริมทะเลสาบสงขลาและพื้นที่ลุ่มประมาณร้อยละ 20 ของพื้นที่ 6 อำเภอ คือ อ.ระโนด สทิงพระ กระแสสินธุ์ สิงหนคร บางกล่ำ และ อ.เมือง คาดว่าหากฝนไม่ตกและน้ำทะเลไม่หนุนจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในอีก 2 วัน