เปิด แผนกู้ ดอนเมือง

สนามบินดอนเมือง สนามบินนานาชาติแห่งแรกของประเทศไทย ที่เปิดดำเนินการครั้งแรกเมื่อ 27 มีนาคม 2457 และปิดตัวลงเมื่อ 28 กันยายน 2549 หลังสนามบินสุวรรณภูมิ กำเนิดขึ้น

ทำให้สนามบินดอนเมืองกลายเป็นสนามบินในประเทศนับตั้งแต่นั้น

สนามบินดอนเมือง เป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการเมือง ที่มีทั้งการบุกเข้าปิดสนามบิน หรือการใช้พื้นที่สนามบินเป็นทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว

เป็นศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ.

ล่าสุด กลายเป็นพื้นที่ "รับน้ำเหนือ" ไว้เต็มพื้นที่

ทำให้ "สนามบินดอนเมือง" กลายเป็นตำนานอีกหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ของอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ที่สุดในรอบ 50 ปี

สนามบินดอนเมือง หรือ ท่าอากาศยานดอนเมือง ชื่อเดิมคือท่าอากาศยานนานาชาติกรุงเทพ ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ทางตอนเหนือของ กทม. บนพื้นที่ 3,881 ไร่

ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งของกองทัพอากาศ (ทอ.) และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.

พล.อ.ต.มณฑล สัชฌุกร โฆษก ทอ. ระบุว่า พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. แต่งตั้งคณะกรรมการสำรวจและวางแผนฟื้นฟูหน่วยงานกองทัพอากาศที่ตั้งดอนเมือง โดยให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผช.ผบ.ทอ. เป็นประธาน

ซึ่งการทำงานของคณะกรรมการได้สำรวจและประเมินความเสียหายตลอดจนวางแผนฟื้นฟูให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยแล้ว โดยจัดทำรายงานเพื่อเสนอแผนขึ้นมาและวางแผนของบประมาณสนับสนุน โดยมีแผนทั้งหมด 3 ระยะ

ขั้นที่ 1 ระยะเร่งด่วน คือให้ฟื้นฟูหน่วยงาน ทอ.ให้กลับมาทำงานได้โดยเร็ว หลังจากสถานการณ์ภายใน ทอ.ดอนเมืองมีการสำรวจความเสียหายพร้อมทำแผนงบประมาณฟื้นฟู

ขั้นที่ 2 ระยะกลาง คือ ฟื้นฟูหน่วยงานประเมินความเสียหายว่าต่ำที่สุดจะทำงานได้แค่ไหน จากนั้นให้หน่วยงานสามารถทำงานได้สู่สภาวะปกติ

และขั้นที่ 3 ระยะยาว คือ ให้ ทอ.สามารถปฏิบัติภารกิจได้แม้จะเกิดภัยพิบัติในอนาคต

คณะกรรมการชุดดังกล่าว สำรวจข้อมูลความเสียหายในส่วน ทอ. เบื้องต้นตั้งงบประมาณ 10,503 ล้านบาท เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการบริหารศูนย์สนับสนุนการปฏิบัติการของกระทรวงกลาโหม (กปก.)

ส่วนแนวทางการทำงานเราจะประเมินค่าความเสียหายมี 2 ลักษณะ คือ เจ้าหน้าที่ ทอ.ดำเนินการเอง ส่วน ทอ.ไม่สามารถดำเนินการเองได้ก็จะจ้างผู้เชี่ยวชาญมาสำรวจ รวมถึงการซ่อมบำรุงเช่นเดียวกัน

พล.อ.ต.มณฑลระบุด้วยว่า ที่ ทอ.ของบประมาณฟื้นฟูที่ดูตัวเลขแล้วจะสูง ก็เพราะ ทอ.จมอยู่ในน้ำทั้งดอนเมือง รวมทั้งคลังใหญ่เสียหายเกือบทุกคลัง คือ กรมขนส่ง กรมสื่อสาร กรมช่างอากาศ กรมช่างโยธา ทอ. กรมสรรพาวุธ เนื่องจากกรมเหล่านี้มีอุปกรณ์เครื่องมือและเครื่องจักรที่มีราคาแพง โดยมีขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ รวมถึงกองบิน 6

ส่วนการดำเนินการเพื่อสูบน้ำออกจาก ทอ. มีการตั้งเครื่องสูบน้ำ 3-4 ตัว ที่สูบน้ำให้ลงไปที่คลองสองด้านตลาดยิ่งเจริญ ซึ่ง ทอ.มีนโยบายไม่ระบายน้ำออกไปใส่ชาวบ้านหรือถนน ทำให้ ทอ.ถึงยังจมน้ำอยู่จนทุกวันนี้

และ พล.อ.ต.มณฑลยอมรับว่า "คงต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควร"

ขณะที่ ว่าที่เรืออากาศโท อนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ทอท. จัดทำแผนฟื้นฟูท่าอากาศยานดอนเมือง แบ่งเป็น 2 ระยะ

ระยะที่ 1 ใช้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ขั้นคือ ขั้นที่ 1 ฟื้นฟูทางวิ่ง ทางขับ ระบบไฟฟ้าสนามบิน ระบบไฟฟ้ากำลังที่จ่ายให้กับระบบไฟฟ้าสนามบินและเครื่องช่วยการเดินอากาศ ของฝั่งตะวันออก (ด้านกองทัพอากาศ) ให้สามารถใช้งานได้อย่างเร่งด่วน คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในสิ้นเดือนมกราคม 2555 โดยเป็นการเปิดให้บริการอากาศยานของหน่วยราชการก่อน ขั้นที่ 2 ทอท. จัดสรรงบประมาณ 445 ล้านบาท ฟื้นฟูอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 เพื่อให้สามารถเปิดใช้บริการเชิงพาณิชย์ได้และสำนักงานใหญ่ ทอท.

ระยะที่ 2 เป็นการฟื้นฟูในส่วนของทางวิ่งฝั่งตะวันตกและอาคารอื่นๆ เช่น อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ อาคารคลังสินค้า เพื่อรองรับการเปิดให้เอกชนเข้ามาประกอบการใน 5 โครงการที่ ทอท.วางไว้ อาทิ ศูนย์แสดงสินค้า การซ่อมเครื่องบินลำตัวแคบ เป็นต้น ต้องรอความชัดเจนจากรัฐบาลอีกครั้ง

"การดำเนินการ 2 ระยะแรกคาดว่าจะสามารถแล้วเสร็จได้ภายใน 120 วันหลังน้ำลด และหลังจากนั้น จะมีการดำเนินการในระยะที่ 3 ต่อไปโดยจะต้องมีการพิจารณาอีกครั้ง" ว่าที่เรืออากาศโท อนิรุทธิ์ระบุ

ส่วนการระบายน้ำ ว่าที่เรืออากาศโท อนิรุทธิ์กล่าวว่า มีการระบายน้ำออกผ่านทางคูคลองรอบสนามบินประมาณ 3 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน หาก กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการน้ำทางด้านเหนือเข้าสู่ระบบคูคลองได้เพิ่มขึ้น ทอท.อาจพิจารณาการสูบน้ำออกในจุดท่วมขังเพื่อให้สนามบินกลับมาใช้บริการได้เร็วที่สุด

"เราจะทำทุกวิถีทางในการสร้างความเชื่อมั่น และกอบกู้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยให้ได้" ว่าที่เรืออากาศโท อนิรุทธิ์ แสดงความมั่นใจ

หน้า 10,มติชนรายวัน ฉบับวันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน 2554