กทม.ยอมรับข้อเสนอชาวบางกรวยขอระบายน้ำผ่าน 3 คลอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผอ.ศปภ. เป็นประธานการประชุมหารือเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ

ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีเพื่อระบายผ่านฝั่งตะวันออกของ กทม. บริเวณบางอ้อ บางบำหรุ โดยมีนายวีระ วงศ์แสงนาค ประธานคณะทำงานบริหารจัดการระบายน้ำในพื้นที่ที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรงของ ศปภ. นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายจุมพล สำเภาพล รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) และนายสุรศักดิ์ วิชินโรจน์จรัล นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองบางกรวย ร่วมประชุม

นายวิเชียรกล่าวว่า ตามที่ชาวจังหวัดนนท์ได้ขอให้ผู้ว่าฯกทม.เปิดประตูระบายน้ำ 2 ส่วน คือ ฝั่งคลองมหาสวัสดิ์ จาก 50 ซม. เพิ่มเป็น 100 ซม. ซึ่ง กทม.จะปรับตามศักยภาพคลองที่รับน้ำได้อีกอาจจะเกิน 100 ซม. เพื่อระบายน้ำให้กับคนจังหวัดนนทบุรี ส่วนด้านที่ติดกับ อ.บางกรวยนั้น บริเวณคลองบางพลัด บางอ้อ และบางบำหรุ กทม.ก็เปิดประตูระบายน้ำเพิ่มให้ตามศักยภาพของคลองจากเดิมที่เปิดอยู่แล้ว 60-70 ซม. สำหรับกรณีที่ กทม.ร้องขอมาทางจังหวัดนนทบุรีเสนอใช้ไซฟอนตรงส่วนลอดคลองประปาเข้าสู่จังหวัดนนทบุรี วิ่งเข้าคลองบางตลาดสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นเส้นทางน้ำที่จะช่วยระบายทางเหนือของ กทม. ผ่านเส้นทางต่างๆ ได้นั้น ทางจังหวัดนนทบุรีจะรับไปหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นายวีระกล่าวว่า สำหรับสถานการณ์น้ำขณะนี้กรมชลประทานได้เร่งระบายน้ำลงเจ้าพระยา บริเวณคลองมหาสวัสดิ์ คลองโยง และคลองพระพิมล ซึ่งจะต้องเร่งเพิ่มประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยทางจังหวัดนนทบุรีขอให้กรมชลประทานเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคลองพระอุดม คลองบางกรวย และคลองอ้อม ส่วนการระบายน้ำในอำเภอบางกรวย จ.นนทบุรีผ่าน 3 คลองของ กทม.นั้น หากทำได้อย่างต่อเนื่องจะทำให้น้ำในบางกรวยลดลงใน 4-5 วัน ทั้งนี้จะต้องไม่มีน้ำเติมเข้ามาใน อ.บางกรวย ซึ่งมีอยู่ประมาณ 6 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ด้วย

นายอุดมเดชกล่าวว่า ในช่วงที่น้ำทะเลยังไม่หนุนสูงนั้นจะต้องขอความร่วมมือกับทางกรมชลประทานและ ศปภ.ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ บริเวณปากคลองพระอุดม คลองบางกรวย และคลองอ้อม ในพื้นที่ จ.นนทบุรี เพื่อนำน้ำจาก อ.ไทรน้อย อ.บางใหญ่ และ อ.บางกรวย อ.บางบัวทอง ออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาให้เร็วที่สุดก่อนที่น้ำทะเลจะหนุนระลอกใหม่วันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ด้วย