18 พ.ย. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหาร กทม.
เดินทางมาลงพื้นที่ดูสถานการณ์น้ำท่วมขัง บริเวณ ถ.สุขาภิบาล 5 เขตสายไหม ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่มานานกว่า 3 สัปดาห์ โดยเขตสายไหมเป็นพื้นที่ที่ กทม.ประกาศให้เป็นพื้นที่อพยพทั้งเขต ซึ่งระดับน้ำบนพื้นผิวถนนตลอดทั้งเส้น พบว่า ระดับน้ำลดลงประมาณ 20-30 ซม.
ขณะที่ ประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงอาศัยอยู่ภายในบ้าน และใช้เรือในการสัญจร รวมถึงรถบรรทุกของหน่วยงานทหารที่คอยให้บริการประชาชน ส่วนรถยนต์กระบะขนาดเล็กเริ่มสัญจรไปมาได้บ้างแล้ว
จากนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้เดินทางไปดูที่ประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ ช่วงวัดหนองใหญ่
พบว่า ระดับน้ำสูงและเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งคลองพระยาสุเรนทร์รับน้ำมาจากคลองหกวาสายล่าง ภายหลังถูกชาวบ้าน จาก อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เข้ารื้อกระสอบทรายเป็นความกว้างยาว 20 เมตร ทำให้ปริมาณน้ำไหลเข้ามาในเขตสายไหม ทำให้ กทม.ได้สั่งการให้มีการเปิดประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ที่ความกว้าง 1.05 เมตร เพื่อเป็นการเร่งระบายน้ำบางส่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ลงพื้นที่ ชาวบ้านในเขตสายไหมที่ได้รับผลกระทบจากน้ำที่ท่วมเพิ่มขึ้นได้เข้าร้องเรียนกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์
โดยขอไม่ให้มีการรื้อแนวกระสอบทรายเพิ่มเติม เพราะทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นบ้านเช่า ไม่มีทะเบียนบ้าน จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐ ซึ่งทาง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ รับปากจะนำข้อเรียกร้องเสนอต่อ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผอ.ศปภ.
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการรื้อแนวกระสอบทราย เพราะจะทำให้น้ำไหลเข้ามาเพิ่มเติมในพื้นที่วันละ 4 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
และทำให้ยากต่อการระบายน้ำ โดยอาจจะใช้ระยะเวลานานไปถึงปีหน้า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ จะยังเปิดประตูระบายน้ำคลองพระยาสุเรนทร์ที่ 1.05 ม. ซึ่งจะมีการประเมินสถานการณ์ภายใน 24 ชม. โดยในวันที่ 19 พ.ย.นี้ ที่จะมีการเจรจาร่วมกันระหว่างชาวบ้านและตัวแทนจากศปภ.กรณีที่คลองหกวา ตนจะไม่มาเข้าร่วมเจรจาครั้งนี้ด้วย แต่จะส่งข้าราชการประจำเข้ามาหารือแทน เพราะไม่อยากให้ถูกมองว่าเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ทั้งนี้ ยอมรับว่า เป็นห่วงทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นชาวกทม. หรือชาวปทุมธานี จึงอยากให้ทุกฝ่ายใช้เหตุผลเพื่อหาทางออกร่วมกัน