เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 13พ.ย.2554 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง รรท.ที่ปรึกษา สบ10 พร้อมคณะได้เดินทางขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เพื่อสำรวจเส้นทางการจาจรรอบกรุงเทพฯ และพิจารณากู้ถนนที่โดนน้ำท่วมเพื่อเปิดเส้นทางออกไปสู่ภาคต่างๆ โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
โดยดูช่วงด่านธัญญะ จากนั้น พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า เบื้องต้นถนนที่จะต้องกู้คือ ทางขึ้นธัญบุรี เพราะมีจุดที่น้ำลึกไม่มากนัก คิดว่านำหินคลุกไปลงก็จะระบายการจราจรได้ดี แต่จาการดูเส้น 340 บางบัวทอง จ.สุพรรณบุรี ที่จะเปิดเป็นเส้นทางออกสู่ภาคใต้ ดูแล้วไม่ไหว ระยะทางยาว 27 กม. และน้ำก็เยอะมาก โอบล้อมทั้งสองข้างทางของถนน ตนเห็นว่า น่าจะมาป้องกันถนนพระราม2 มากกว่า เพราะเป็นถนนสูง จากการที่ตนคุยกับดร.เสรี ก็น่าจะมีน้ำขึ้นมาไม่มาก ใช้เป็นเส้นทางสัญจรได้
“ตรงนี้ผมจะเสนอความเห็นไปยังรัฐบาลในฐานะที่ ตร.เป็นเลขาศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัย และการจราจร หรือ ศรจ. ” ผบ.ตร. กล่าว
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวต่อว่า ก็ยังได้ดูเส้นโทลเวย์หน้าโรงกษาปณ์ ควรจะต้องกู้ช่วงทางลงโทลเวย์เข้าสู่พหลโยธิน แต่กำลังพิจารณาอยู่เพราะต้องใช้บิ๊กแบ๊คถึง 4 พันกระสอบ คิดหนักอยู่เหมือนกัน แม้ทางกระทรวงคมนาคมบอกว่าบิ๊กแบคเริ่มขาดแคลนก็จะลองเสนอความเห็นดู ต้องขอเขาว่าจะให้เท่าไหร่
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายการุณ โหสกุล ส.ส.ดอนเมือง พรรคเพื่อไทย นำชาวบ้านดอนเมือง มารื้อบิ๊คแบ็กว่า
ไม่คิดว่าเขาจะทำอย่างนั้น กับนายการุณ ก็คุยกันอยู่แล้ว ตนจะยกหูคุยเอง จุดยืนก็คือรื้อไม่ได้ ต้องเจรจาทำความเข้าใจชาวบ้าน และต้องทำให้ส่วนรวมอยู่ได้ด้วย ถ้ามีการรื้อและทำให้น้ำทะลักเข้ามาเยอะก็รื้อไม่ได้ ต้องวางบิ๊กแบ็กไว้เต็มที่ และเท่าที่เห็นจากมุมสูงก็เป็นเพียงระบายน้ำจากบางจุดมา เรื่องนี้คุยกันได้ว่าจะระบายน้ำได้เท่าไหร่เพื่อไม่ให้มีผลกระทบทั้งสองฝ่าย