วันที่ 11 พ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานจาก จ.ฉะเชิงเทรา ว่า นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
พร้อมด้วยนางสุมิตรา ศรีสมบัติ นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นายศักดิ์สิทธิ์ วิบูลสุข ประมงจังหวัดฉะเชิงเทรา นายสุวิทย์ คำดี นายอำเภอบางคล้า ลงพื้นที่บริเวณท่าน้ำวัดสาวชะโงก อำเภอบางคล้า หลังได้รับแจ้งว่า น้ำใน แม่น้ำบางปะกง เริ่มเน่าเสียและมีสัตว์น้ำลอยตายเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการสังเกตสภาพน้ำบริเวณท่าน้ำพบว่า มีสีออกน้ำตาลและเริ่มส่งกลิ่นเหม็น ริมแม่น้ำมีปลาลอยตายไหลตามน้ำเป็นจำนวนมาก และจากการใช้ชุดตรวจวัดออกซิเจนภาคสนามระบบดิจิตอล วัดคุณภาพน้ำบริเวณท่าน้ำหน้าวัดสาวชะโงก สามารถวัดค่าได้ 1.1 มิลลิกรัมต่อลิตรเท่านั้น
หลังจากนั้นคณะของนางฐิติมา ลงเรือล่องลำน้ำบางปะกงไปทางอำเภอบางคล้า ก็พบสัตว์น้ำลอยตายมากขึ้น
ซึ่งเมื่อผ่านบริเวณหน้าวัดสามร่ม ในอำเภอคลองเขื่อนไปเล็กน้อย พบ "ปลากระเบน" ขนาดใหญ่ ลอยตายอยู่ริมแม่น้ำ ลำตัวมีความกว้างประมาณ 1.80 เมตร ยาวประมาณ 3.50 เมตร คาดว่าตายมาแล้วประมาณ 2 วัน ห่างกันไปราวอีก 1 ก.ม. พบปลากระเบนตายลอยน้ำอีก 1 ตัว ตัวใหญ่ประมาณ 1.50 เมตร ยาวประมาณ 3.20 เมตร คาดว่าตายในเวลาไม่ห่างกันมากนัก จุดนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจวัดคุณภาพน้ำอีกครั้งพบว่า มีค่าเพียง 1.00 มิลลิกรัมต่อลิตร
จากนั้นคณะขึ้นจากเรือที่ท่าน้ำวัดคุ้งกร่าง และตรวจวุดคุณภาพน้ำอีกครั้ง พบว่ามีค่าเฉลี่ยเพียง 0.72 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งตลาดระยะทางที่ล่องเรือสังเกตริมแม่น้ำบางปะกง ยังพบว่ามีต้นไม้จำนวนมากซึ่งยืนต้นตาย ขณะที่บางส่วนใบไม้เริ่มแห้งเฉาแล้ว
จากการสอบถามชาวบ้านที่อาศัยอยู่หน้าวัดคุ้งกร่าง ในตำบลคลองเขื่อน บอกว่า
น้ำเริ่มเน่าเสียมาหลายวันแล้ว ส่งผลให้สัตว์น้ำลอยตายเป็นจำนวนมาก ทั้งขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก โดยเฉพาะกุ้งก้ามกราม ชาวบ้านได้จับสัตว์น้ำเหล่านั้นไปบริโภค ส่วนหนึ่งนำไปขายในท้องตลาด
นางฐิติมา กล่าวว่า จากการล่องเรือตามลำแม่น้ำบางปะกง เมื่อล่องลึกเข้าไปก็พบว่าคุณภาพน้ำเริ่มต่ำลง
ซึ่งน่าจะมีปัจจัยมาจากน้ำที่ถูกระบายมาจากทั้งแม่น้ำนครนายก แม่น้ำปราจีนบุรี จากปทุมธานีที่ผ่านมาทางคลองหกวาสายล่าง ลงแม่น้ำบางปะกง ที่ประตูน้ำสมบูรณ์ จากกรุงเทพมหานครที่ระบายจากคลองแสนแสบออกแม่น้ำบางปะกงที่ประตูน้ำบางขนาก และน้ำในคูคลองต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราเอง ส่วนแนวทางการแก้ไขคงจะต้องระบายน้ำดีจากด้านบนปล่อยลงมาเจือจาง ปัญหานี้ต้องเริ่มแก้ไข โดยจะรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ ส่วนพื้นที่ปากอ่าวแม่น้ำบางปะกง ซึ่งเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงปลากะพงในกระชังใหญ่ที่สุด ซึ่งมีมากกว่า 180 ราย มีกระชังปลากว่า 7,000 – 8,000 กระชัง ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบ จึงขอให้เจ้าของกระชังปลาได้รีบคัดไซส์ของปลาที่สามารถจับขายได้ให้รีบขาย
นายศักดิ์สิทธิ์ วิบูลสุข ประมงจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ปลากระเบนที่พบเป็นกระเบนน้ำจืด หรือเรียกว่ากระเบนราหู หรือ กระเบนเจ้าพระยา
เป็นชนิดที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองของโลก รองมาจากปลากระเบนแมนต้า ที่พบได้ในทะเลโดยสามารถหนักได้ถึง 600 กิโลกรัมกว้างได้ถึง 2.5-3 เมตรเป็นปลากระเบนที่อยู่ในวงศ์ปลากระเบนธง (Dasyatidae) ซึ่งเป็นปลากระเบนชนิดที่มีหางเรียวยาวเหมือนแส้ ได้ชื่อว่า ราหู" เนื่องจากขนาดลำตัวที่ใหญ่เหมือนราหูอมจันทร์ตามคติของคนโบราณ มีลักษณะส่วนปลายหัวแหลม ขอบด้านหน้ามนกลมคล้ายใบโพ ลักษณะตัวเกือบเป็นรูปกลม ส่วนหางยาวไม่มีริ้วหนัง มีเงี่ยงแหลมที่โคนหาง 2 ชิ้น ซึ่งในปลาขนาดใหญ่อาจยาวได้ถึง 8-10 นิ้วเมื่อหักไปแล้วสามารถงอกขึ้นได้ กลางหลังมีเกล็ดเป็นตุ่มหยาบ ๆ ด้านบนของปีกและตัวเป็นสีเทาหรือน้ำตาลนวล หางสีคล้ำ ด้านล่างของตัวมีสีขาวนวล ที่ขอบปีกด้านล่างเป็นด่างสีดำ อาศัยในแม่น้ำสายใหญ่ ๆ จนถึงบริเวณใกล้ปากแม่น้ำ พบครั้งแรกในแม่น้ำเจ้าพระยา จึงถูกตั้งชื่อ ว่า "เจ้าพระยา" (chaophraya) และยังพบในแม่น้ำสายอื่น ๆ เช่น แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำบางปะกง