บล็อกเกอร์ผู้วิเคราะห์การเมืองไทย ซึ่งมีผลงานตีพิมพ์ลงในเว็บไซต์ Asian Correspondent
แสดงความเห็นต่อสภาวะน้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยอ้างถึงบทความของโทมัส ฟูลเลอร์ในนิวยอร์กไทมส์ที่ระบุว่า
"ในภารกิจเร่งด่วนที่จะต้องปกป้องกรุงเทพจากน้ำท่วม รัฐบาลและเจ้าหน้าที่กำลังเผชิญกับตัวเลือกที่ว่า พวกเขาจะเลือกช่วยคนหรือเครื่องจักรดี
ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของกรุงเทพได้ขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในระหว่างการประท้วงเพื่อให้มีการรื้อคันกั้นน้ำซึ่งทำให้บ้านของพวกเขาน้ำท่วมทั้งนี้เพื่อจะรักษานิคมอุตสาหกรรมไว้"
Bangkok Pundit ให้ความเห็นต่อบทความของฟูลเลอร์ว่า มันไม่ใช่การต้องเลือกระหว่าง "คนหรือเครื่องจักร" เสียทีเดียว เพราะหากพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมถูกน้ำท่วม นั่นหมายถึงคนงานจำนวนมากที่จะต้องตกงาน นอกจากนี้ หากเราไม่ได้มองแค่ด้านเศรษฐกิจด้านเดียว แต่มองในเชิงมนุษยธรรมด้วยแล้ว กรุงเทพฯ ก็เป็นเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุดและหนาแน่นที่สุด และแม้ว่ากรุงเทพฯ จะเป็นจังหวัดที่ร่ำรวยกว่าจังหวัดอื่นๆ ทั้งหมดในประเทศ แต่เมื่อน้ำท่วมกรุงเทพ ผู้ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือคนยากจนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ขณะที่คนรวยสามารถอพยพไปพักในโรงแรมต่างจังหวัดได้ แต่คนจนเหล่านี้ไม่มีกำลังทรัพย์มากพอที่จะทำเช่นนั้น
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม Bangkok Pundit กล่าวต่อไปว่า "คุณจะบอกกับประชากรส่วนน้อยที่อาศัยอยู่นอกอาณาเขตกระสอบทรายและพนังกั้นน้ำอย่างไร ว่าพวกคุณจะต้องตกอยู่ในภาวะที่น้ำท่วมบ้านต่อไป ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมกรุงเทพฯ" และว่า แม้เงินชดเชยอาจเป็นปัจจัยหนึ่ง แต่ถ้าหากคุณเป็นคนที่จะต้องทนอยู่กับน้ำท่วมมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ และน้ำก็เริ่มจะส่งกลิ่นเหม็นเสียแล้ว บางที เงินก็อาจไม่ใช่คำตอบสำหรับพวกเขาก็ได้ และนี่เองที่เป็นสาเหตุให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งที่จะให้รื้อหรือไม่รื้อคันกั้นน้ำดังที่เราได้เห็นมาในช่วงหลายสัปดาห์นี้
บล็อกเกอร์ดังระบุน้ำท่วมไม่ใช่เรื่อง คน vs เครื่องจักร ชี้ถ้ากทม.จมบาดาล คนจนถูกกระทบ
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ภัยพิบัติ บล็อกเกอร์ดังระบุน้ำท่วมไม่ใช่เรื่อง คน vs เครื่องจักร ชี้ถ้ากทม.จมบาดาล คนจนถูกกระทบ