กองทัพอากาศจมบาดาล100เปอร์เซ็นต์

กองทัพอากาศจมบาดาล100เปอร์เซ็นต์

ผบ.ทอ. แจง กองทัพอากาศจมบาดาล 100 เปอร์เซ็นต์ ชี้ บ้านพักรับรองโดนด้วย

จนต้องย้ายขึ้นชั้น 2 โอด ขอตั้งงบฯซ่อมเครื่องบินจม แนะ สูบน้ำ 'กู้ดอนเมือง' ทุกหน่วยต้องช่วยกัน


 2 พ.ย.54 พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พร้อมด้วยคณะนายทหารระดับสูงของกองทัพอากาศได้นำคณะสื่อมวลชนตรวจพื้นที่น้ำท่วมในเขตกองทัพอากาศ ที่ขณะนี้มีน้ำท่วมเต็มพื้นที่กองทัพอากาศ 100 % โดยความสูงทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 1 เมตร ส่วนที่บริเวณสนามบินกองบิน 6 ท่วมสูงถึง 1.30 เมตร ซึ่งยังมีเครื่องบินที่จอดเสียอยู่รวม 7-8 ลำ โดยมีเครื่องบิน ซี-130 จำนวน 2 ลำ เครื่องบินจี 222 และเครื่องบินฝึก นอกจากนี้ยังมีรถจอดจมอยู่อีกกว่า 100 คัน ส่วนบ้านพักรับรองของ ผบ.ทอ.และนายทหารระดับ 5 เสือทอ.ภายในกองทัพอากาศต่างถูกน้ำท่วมบ้านพักชั้นหนึ่งจนต้องขึ้นอยู่บริเวณชั้น 2 ของบ้านพัก

โดย พล.อ.อ.อิทธพร ให้สัมภาษณ์ว่า กองทัพได้อากาศจัดทำแผนเผชิญเหตุป้องกันน้ำท่วมฐานทัพอากาศดอนเมือง โดยได้ทำแนวกั้นน้ำ เตรียมเครื่องสูบน้ำ ประชาสัมพันธ์ให้ข้าราชการ ครอบครัวกองทัพอากาศทราบอย่างต่อเนื่อง และยังมีการเฝ้าระวังจากศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ (ศบภ.ทอ.) ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และมีการแจ้งเตือนเป็นขั้นที่ 1 2 และ3 ขั้นที่วิกฤติ คือ ปริมาณน้ำที่ท่วมเข้ากองทัพอากาศผ่านช่องทางต่างๆ สูงมากกว่า 1 เมตร ซึ่งสูงกว่าแนวกั้นน้ำที่เราทำไว้ โดยขณะนี้ได้แจ้งเตือนภัยแล้ว ปกติข้าราชการและครอบครัวกองทัพอากาศมีทั้งหมด 1.3 หมื่นคน ซึ่งหลังจากที่ได้มีการเตือนภัย และได้มีการอพยพ ขณะนี้เหลือกำลังพลที่ยังปฏิบัติภารกิจอยู่ 1.2 พันคน นอกจากนี้ยังมีผู้อพยพจากอยุธยา และสายไหมมาพักพิงที่ศูนย์พักพิงกองทัพอากาศ แต่สถานการณ์น้ำเข้ามาจนทำให้ผู้พักพิงไม่ปลอดภัย จึงได้เคลื่อนย้ายผู้อพยพทั้งหมดออกไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังเหลืออยู่อีก 50 คนที่ไปไหนไม่ได้จริงๆเราก็ต้องดูแลเขาต่อไป


 “น้ำท่วมในกองทัพอากาศเต็มหมด 100 % ส่วนพื้นที่กองบิน 6 ที่เป็นโรงเก็บเครื่องบินต่างๆ โดยเฉพาะเครื่องบิน ซี130 ซึ่งเราได้เคลื่อนย้ายอากาศยานทั้งหมดไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ส่วนเครื่องที่เหลืออยู่ คือ เครื่องบินที่ขัดข้องไม่สามารถบินได้ ขณะนี้อยู่ในช่วงปรับระดับสถานการณ์ ซึ่งเราได้มีการย้ายบก.ทอ.ส่วนหน้า และศูนย์อำนวยการกองทัพอากาศส่วนหน้าออกจากพื้นที่กองบัญชาการ เพราะระบบไฟฟ้าในกองทัพอากาศถูกตัดหมดแล้ว เพราะน้ำท่วมถึงหมดจึงจำเป็นต้องย้ายไปอยู่ที่ใหม่ เพื่อดำรงสภาพการปฏิบัติภารกิจของกองทัพอากาศต่อไป เราได้ย้ายไปอยู่ที่หอประชุมกองทัพอากาศตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันที่ 31 พ.ย.เพราะเป็นตึกที่สูงที่สุด ขณะนี้อยู่ในขั้นเตรียมการปรับหน่วยต่างๆ แต่ตอนนี้โชคไม่ค่อยดีเพราะน้ำยังมีปริมาณสูงขึ้น เราจึงต้องคิดต่ออีกว่า ถ้าไม่สามารถอยู่ในหอประชุมกองทัพอากาศได้ เราอาจจะต้องย้ายต่อเป็นบก.ทอ.ส่วนแยก โดยบก.ทอ.ยังอยู่ที่หอประชุมทอ.ตามเดิม ส่วนภารกิจอื่นๆนอกเหนือจากยุทธการ และป้องกันสถานที่ต้องไปที่กรมช่างอากาศ บางซื่อ”ผบ.ทอ.กล่าว


 พล.อ.อ.อิทธพร กล่าวว่า ขณะนี้กำลังประเมินสถานการณ์เตรียมแผนอีก ทั้งนี้เราต้องคงอุปกรณ์บางอย่างไว้ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ซึ่งอาจมีความเสียหายบ้างเพราะระดับน้ำสูงกว่าที่คิด ซึ่งเราคงต้องสำรวจ และอาจต้องขอตั้งงบประมาณใหม่ เพราะเป็นยุทโธปกรณ์ที่ต้องปฏิบัติภารกิจในด้านความมั่นคงในการป้องกันประเทศ ส่วนการตรวจความเสียหายต้องรอให้น้ำแห้งก่อน สำหรับเครื่องบินซี130 จำนวน 2 ลำที่ยังอยู่ เป็นเครื่องที่ต้องรออะไหล่ ขณะนี้ระดับน้ำอยู่ในระดับล้อของเครื่องบิน ดังนั้นเครื่องยนต์ อุปกรณ์ต่างในตัวเครื่องยังใช้งานได้อยู่ ซึ่งความเสียหายไม่มาก ส่วนระดับน้ำท่วมขังในกองทัพอากาศยังเพิ่มระดับขึ้น ทำให้การเดินทางในกองทัพอากาศลำบากขึ้น เพรราะเราต้องดูแลประชาชนด้วย ส่วนบ้านพักที่ตนอาศัยอยู่ตอนนี้ก็ท่วมสูงถึงชั้น 1ส่วนกำลังพลกองทัพอากาศเคลื่อนย้ายไปอยู่ในที่สูง


 “ส่วนการกู้สนามบินดอนเมือง ต้องดูว่าจะทำอย่างไรให้น้ำมันพร่องออกไปได้ ส่วนที่ตั้งสนามบินดอนเมืองประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นความรับผิดชอบของกองทัพอากาศ แ ต่ข้อเท็จจริง สนามบินดอนเมืองมีฝั่งตะวันออกและตะวันตก ซึ่งสนามบินดอนเมืองทหารอยู่ฝั่งตะวันออก ท่าอากาศยานดอนเมืองคือฝั่งตะวันตก คือ เทอร์มินอลต่างๆ คลังสินค้า แท๊กซี่เวย์ รันเวย์ ทั้งหมด ซึ่งสนามบินดอนเมืองมีรันเวย์สองด้าน คือ ขวาและซ้าย รวมทั้งด้านขนาน ซึ่งบริษัทท่าอากาศยานไทยเป็นคนดูแลทั้งหมด กองทัพอากาศจะดูแลในส่วนที่เป็นราชการของกองทัพอากาศ ซึ่งการสูบน้ำออกต้องทำร่วมกัน ส่วนการดูแลระบบน้ำในสนามบินเป็นการดูแลของบริษัทท่าอากาศยาน ซึ่งคงต้องร่วมกันดูแลว่า จะสูบน้ำอย่างไร สำหรับการระบายน้ำออกจากพื้นที่ตั้งแต่สนามบินดอนเมืองและท่าอากาศยานทั้งหมดต้องร่วมกันอย่างจริงจัง คิดว่า หน่วยงานที่มีส่วนรับผิดชอบต้องมาช่วยกันเพราะพื้นที่ที่เสียหายไม่ใช่ความรับผิดชอบของทอ.เพียงอย่างเดียว รัฐบาลก็ทราบสถานการณ์ เพราะเรียนให้ทราบแล้ว ทั้งนี้ไม่รู้สึกเหนื่อยหรือท้อ เพราะเป็นทหารต้องทำหน้าที่ และคงไม่ย้ายไปไหนยังคงอยู่ในบ้านพักที่เดิม” ผบ.ทอ.กล่าว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์