วันนี้ (2 พ.ย.) ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมบางชัน เขตมีนบุรี ได้หารือร่วมกันเตรียมรับมือน้ำเหนือ พร้อมกำชับให้ทุกโรงงานเสริมความแข็งแกร่งหรือเพิ่มความสูงแนวป้องกันน้ำของโรงงานอย่างเต็มที่
โดยเฉพาะโรงงานที่อยู่ติดคลองแสนแสบ และขอความร่วมมือในการช่วยกำจัดวัชพืชที่ขวางทางน้ำโดยเฉพาะในคลองบางชันที่ไหลผ่านกลางนิคม รวมทั้งขอการสนับสนุนเครื่องผลักดันน้ำจากคลองบางชันลงสู่คลองแสนแสบ ถุงยังชีพหรือเงินเพื่อใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยโดยรอบนิคมฯบางชัน
ทั้งนี้ สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร เขตมีนบุรี ส่งหนังสือแจ้งเตือนมาว่าระดับน้ำจะมาสูงถึง 2.50-3 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางบวกกับการเปิดประตูน้ำคลองสามวา ทำให้ระดับน้ำในคลองแสนแสบเพิ่มขึ้น 2 เซนติเมตร มาเป็น 63-64 เซนติเมตร จากเมื่อวานนี้ อยู่ที่ระดับ 62-63 เซนติเมตรจากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งเป็นผลจากการเปิดประตูน้ำคลองสามวาและการทำลายด้านข้างประตูน้ำคลองสามวา ทำให้ไม่สามารถควบคุม
กระแสน้ำที่ไหลเข้ามาได้จนมีผลทำให้ระดับน้ำในคลองแสนแสบเพิ่มขึ้นในที่สุด
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อไทยในฐานะประธานคณะทำงานประสานฝ่ายปฏิบัติการระบบระบายน้ำกทม.และศปภ. เปิดเผยว่า จะเสนอนายกรัฐมนตรี สั่งการให้กรุงเทพฯตั้งคันกั้นน้ำที่บริเวณถนนหทัยราษฏร์ บริเวณประตูระบายน้ำ(ปตร.)คลองสามวา ระยะทาง 3 กิโลเมตร เนื่องจากขณะนี้ปริมาณน้ำที่บ่ามาจากคลองสอง ผ่านปตร.คลองสามวามีปริมาณมาก จนน้ำบางส่วนบ่าข้ามถนนหทัยราษฎร์ไปฝั่งมีนบุรีแล้ว ซึ่งหากไม่ตั้งคันดังกล่าวแม้ว่าจะซ่อมปตร.คลองสามวาได้ก็จะไม่มีประโยชน์ เพราะจะทำให้ไม่สามารถคุมปริมาณน้ำที่ไหลไปลงคลองแสนแสบได้จะส่งผลกระทบต่อนิคมบางชันได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อประมาณ 14.00 น. น้ำได้เอ่อตามท่อนิคมฯบางชันแล้ว ตรงข้ามบริษัทสหยูเนี่ยน