ศปภ.เตือนปชช.จอดบนทางด่วนบริเวณทางขึ้น - ลง หรือจอดซ้อนคันให้รีบย้าย

ศปภ.เตือนปชช.จอดบนทางด่วนบริเวณทางขึ้น - ลง หรือจอดซ้อนคันให้รีบย้าย

วันนี้ (1 พ.ย 54) เวลา 21.00 น. ณ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ศูนย์เอ็นเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ กระทรวงพลังงาน
 
ศาสตราจารย์ธงทอง จันทรางศุ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย แถลงข่าวผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจถึงความคืบหน้าสถานการณ์น้ำ และการดำเนินงานให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ของ ศปภ. ว่า สถานการณ์น้ำโดยรวมน้ำทะเลเริ่มลดลง ไม่หนุนสูงเมื่อที่ผ่านมา น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มมีระดับลดลง ทำให้เร่งระบายน้ำลงสู่อ่าวไทยได้มากขึ้น ส่วนน้ำเหนือตั้งแต่จังหวัดนครสวรรค์ลงมามีปริมาณลดลง น้ำที่เคยท่วมถนนสายเอเชียก็แห้งสามารถใช้ถนนสายเอเชียตั้งแต่ช่วงบางปะอิน - อ่างทอง ได้ตามปกติ และระดับน้ำที่ประตูระบายจุฬาลงกรณ์มีปริมาณลดลง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีทำให้การระบายน้ำจากจังหวัดปทุมธานีสามารถระบายลงพื้นที่ลุ่มและภาคกลางได้มากขึ้น

สำหรับการระบายน้ำทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 30 เครื่อง เพื่อใช้ในการระบายน้ำในพื้นที่ดังกล่าว และมีการแก้ไขปัญหาอุปสรรคสิ่งกีดขวางทางน้ำในลำคลองต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ยกเว้นคลองแสนแสบที่ยังมีปัญหาอยู่โดยจะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อเปิดทางให้น้ำได้ระบายได้มากขึ้น

ทั้งนี้ จะมีการเปิด - ปิดประตูระบายน้ำอย่างเป็นระบบเชื่อมโยงกันมากขึ้น เพื่อรักษาพื้นที่เศรษฐกิจไม่ให้ถูกน้ำท่วม
 
โดยความร่วมมือของ ศปภ. และกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะจัดส่งเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบที่มีอำนาจในการตัดสินใจ และสั่งการให้ดำเนินการลงพื้นที่สำรวจหน้างาน ควบคุมการดำเนินการอย่างใกล้ชิดสถานการณ์น้ำโดยรวมของกรุงเทพมหานครสถานการณ์ดีขึ้น แต่อาจจะมีบางพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการขยายวงกว้างของน้ำทำให้น้ำเอ่อล้นท่วมขังเป็นบางพื้นที่

นอกจากนั้น ได้จัดทำแนวคันกั้นน้ำที่รังสิต เมืองเอกทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร

ซึ่งเป็นจุดแนวคันกั้นน้ำที่สำคัญอีกจุดหนึ่งจะใช้กระสอบทรายขนาดใหญ่ หรือ big bace ขนาด 3 ฟุต X 3 ฟุต จำนวน 4,000 ลูก ทำเป็นแนวคันกั้นน้ำระยะทาง 3.5 กิโลเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเหนือไหลเข้าพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพมหานคร และจะทำให้ระดับน้ำที่ท่วมขังในถนนวิภาวดีรังสิต ถนนพหลโยธินลดระดับลง ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำบริเวณเมืองเอกไหลลงสู่คลองประปา

สำหรับประชาชนที่นำรถไปจอดบนทางด่วนบริเวณทางขึ้นทางลง และจอดซ้อน 2 แถว ซึ่งถือว่าเป็นการกีดขวางการจราจร ขอให้ประชาชนเจ้าของรถรีบย้ายรถออกจากบริเวณดังกล่าว เพื่อความสะดวกในการสัญจร หากไม่มีการเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นจะต้องใช้รถลาก หรือยกไปไว้ในสถานีตำรวจบริเวณใกล้ ๆ และขอให้ประชาชนที่ไปนอนค้างแรมบนทางด่วนซึ่งเป็นอันตรายอย่างมาก รีบอพยพทันที ห้ามพักแรมบนทางด่วนเป็นเด็ดขาด เพราะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์