นายวิกรม สุวรรณชมภู ผู้ช่วยผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) เปิดเผยว่า ปัญหาโรงผลิตน้ำฝั่งตะวันตกที่มีการลดกำลังการผลิตลงเพื่อรักษาคุณภาพ
ซึ่งขณะนี้ได้แก้ไขให้ใกล้เคียงกับสภาวะปกติแล้ว และสามารถผลิตได้มากขึ้น รวมถึงมีการเติมคลอรีนและสารเคมีอื่นๆ เพื่อความมั่นใจในความสะอาดและปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าอาจจะมีสีและกลิ่นหลงเหลืออยู่บ้างจากการเติมคลอรีนเพิ่มเข้าไป แต่ยังอยู่ในมาตรฐานที่กรมอนามัยโลกควบคุมคือ 0.2 ส่วนต่อน้ำล้านส่วน ซึ่งสามารถวางทิ้งไว้หรือต้ม คลอรีนก็จะระเหยไปเอง สำหรับการผลิตและจ่ายน้ำ ของ กปน. สามารถผลิตได้ 4.2 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน สำหรับแจกจ่ายในพื้นที่ กทม. นนทบุรี สมุทรปราการ และในบางพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำ ซึ่ง กปน.จะมีหน่วยบริการย่อยกระจายให้บริการกว่า 450 จุด
ด้านโรงผลิตน้ำฝั่งตะวันออก โดยเฉพาะโรงบางเขน ซึ่งมีกำลังผลิตใหญ่ที่สุดขนาด 3.6 ล้านลบ.ม.ต่อวัน ได้จัดทำแนวกั้นน้ำ 3 ชั้น เฉลี่ยสูง 4 เมตรจากระดับน้ำทะเล และมีเครื่องสูบน้ำกำลังสูง เพื่อป้องกันเครื่องจักรผลิตน้ำเสียหายจากน้ำท่วม ซึ่งมั่นใจว่าสามารถจ่ายน้ำให้ประชาชนได้ไม่มีปัญหาแน่นอน อย่างไรก็ตาม หากประชาชนมีปัญหาไม่สามารถเดินทางมาจ่ายค่าน้ำประปาได้ ทาง กปน.ได้ออกประกาศ ไปแล้วว่า กปน.จะไม่ตัดน้ำประปา สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่น้ำท่วม ตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค.ไปจนกว่าสถานการณ์จะปกติ และจะพิจารณาลดหย่อนค่าน้ำกรณีมีปัญหาท่อแตกในพื้นที่น้ำท่วม