นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีเงา รับผิดชอบด้านเศรษฐกิจ กล่าวเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม
กรณีรัฐบาลเตรียมใช้เม็ดเงินนอกงบประมาณ 9 แสนล้านบาท ทำโครงการ “นิวไทยแลนด์” เพื่อฟื้นฟูและป้องกันน้ำท่วมในระยะยาว ว่า ระยะนี้รัฐบาลควรจะมีสมาธิในการแก้ปัญหาทุกข์ยากประชาชนที่เป็นปัญหาเฉพาะหน้า แต่ดูเหมือนรัฐบาลยังไม่ค่อยตื่นตัวต่อระดับปัญหา ที่ตนกังวลอย่างเช่น การประกาศให้กิจการดำเนินการตามปกติในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ จะส่งผลอย่างไรก็ต่อประชาชน เพราะจากการลงพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยใน กทม. ได้พบเห็นสภาพการจราจรที่แย่ลงเมื่อเทียบกับวันที่มีการประกาศเป็นวันหยุด แต่รัฐบาลยังคะยั้นคะยอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยได้ทำการอพยพ แต่ก็เกิดความโกลาหลเพราะประชาชนที่ถูกบังคับให้อพยพ ถูกบังคับให้เดินทางกลับเข้ามาทำงานอีก ดังนั้น คนกลับมาไม่ได้ก็จะมีปัญหากับที่ทำงาน ตรงนี้ต่างหากที่รัฐบาลควรให้ความสำคัญและเร่งแก้ไข
นายกรณ์กล่าวว่า ยอมรับว่าในอนาคตต้องมีการฟื้นฟูป้องกัน แต่เม็ดเงินที่รัฐบาลพูดถึงเพื่อมาทำโครงการ “นิวไทยแลนด์” นั้น ไม่มีความสำคัญเท่ากับว่าจะนำเม็ดเงินดังกล่าวไปใช้ทำอะไรบ้าง เพราะจากแผนที่พรรคเพื่อไทยเคยหาเสียงไว้ในส่วนของเม็ดเงิน 2-4 แสนล้านบาท เพื่อป้องกันน้ำท่วมถาวร พรรคเพื่อไทยระบุถึงการถมทะเลและการป้องกันจากทะเล ถ้าอย่างนั้นการดำเนินการจะไร้ค่าโดยสิ้นเชิง เพราะน้ำท่วมครั้งนี้ไม่ได้มาจากทะเล แต่เป็นน้ำที่มาจากภายใน โดยเฉพาะจากการบริหารจัดการผิดพลาดของรัฐบาลมาตลอด ดังนั้น 9 แสนล้านบาทที่รัฐบาลระบุ ตนจะไม่ขอแสดงความคิดเห็นจนกว่าจะรู้ว่าเอาเม็ดเงินดังกล่าวไปทำอะไรบ้าง
"รัฐบาลก็ต้องอธิบายว่า ทำไมไม่บริหารภายใต้กรอบงบประมาณปกติ ทำไมต้องใช้เงินนอกงบประมาณ 9 แสนล้านบาท ทั้งที่ในอดีตพรรคเพื่อไทยเองก็เคยคัดค้านรัฐบาล ปชป.ในการใช้เงินนอกงบประมาณ แต่เพราะครั้งนั้นตัวเลขการขยายตัวมีปัญหา ซึ่งเป็นคนละอย่างกับวันนี้ ดังนั้นคิดว่า โครงการ “นิวไทยแลนด์” ที่จะทำ ในส่วนที่เอางบฯมาใช้ไม่ทันหรือยังไม่ได้ดำเนินการ สามารถรอบรรจุเป็นงบฯปี 2556 ได้ และแผนต้องชัด ว่าจะใช้งบอะไร ไปทำอะไร ที่สำคัญรัฐบาลต้องตระหนักถึงความศรัทธาและประสิทธิภาพความโปร่งใส และถามว่าเมื่อรัฐบาลบริหารจัดการเรื่องน้ำอย่างนี้ ยังจะได้รับความไว้วางใจให้บริหารเม็ดเงินมหาศาลอย่างนี้อีกหรือ" นายกรณ์กล่าว