ส่วนทางด้านทิศตะวันออกของกทม. กรมชลประทานและกรุงเทพมหานครทำงานอย่างเต็มที่
นอกจากการเปิดคันระบายน้ำตามแนวคันคลองรังสิตให้น้ำไหลได้สะดวกขึ้น กรมชลประทานติดตั้งเครื่องส่งน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มขึ้น และประสานงานให้กทม.เร่งระบายน้ำจากคลองสามวาที่ลงจากทุ่งรังสิต เพื่อให้เคลื่อนเข้าสู่คลองแสนแสบได้โดยเร็วก่อนลงสู่บางปะกงต่อไป
การระบายน้ำในครั้งนี้จะทำให้มีน้ำล้นในเขต บึงกุ่ม คันนายาว สะพานสูง และสวนหลวง ในบางช่วงเวลา
นายธงทอง กล่าวอีกว่า ช่วงสัปดาห์นี้มีน้ำทะเลหนุนสูง ศปภ.ติดตามสถานการณ์ในช่วงเช้า วัดบริเวณตลาดน้อยใกล้เยาวราชระดับน้ำสูงสุดอยู่ที่ 2.53 เมตร จึงทำให้ช่วงนี้น้ำสูงขึ้น มีน้ำเอ่อล้น 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่บ้าง โดยล้นวันละ 2 รอบ
อย่างไรก็ตามอีก 2-3 วันต่อจากนี้ไป จะเป็นช่วงที่น้ำทะเลลดตำลง จะเร่งซ่อมแซมแนวคันกั้นน้ำ 2 ฝั่งเจ้าพระยาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 พ.ย. ก่อนที่น้ำทะเลจะหนุนสูงอีกรอบหนึ่งในช่วงเทศกาลลอยกระทง
ส่วนการท่วมขังของน้ำในกรุงเทพฯ ก็ใกล้เคียงกับวันที่ 29 ต.ค.ทางตอนเหนือของกทม.ที่น้ำไหลมาตามแนวถ.พหลโยธินนั้น ปัจจุบันยังรักษาแนวอยู่ที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน
ส่วนด้านตะวันตกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่เขตตลิ่งชันมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นและอาจจะขยายไปเขตใกล้เคียง ขณะเดียวกัน ศปภ.ได้แจ้งเตือนไปแล้วว่าคลองเปรมประชากรก็ต้องระวังเช่นกัน
นายธงทอง กล่าวถึงความคืบหน้าระดับน้ำในคลองประปา ว่า บริเวณหลัก 6 จ.ปทุมธานี หลังวัดนาวง ว่า ผู้ว่าฯ กปน.แจ้งว่า ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมชลประทาน กองทัพไทย กรมโยธาธิการ ผังเมือง การซ่อมแซมคันกั้นน้ำ และอุดรอยรั่วต่างๆ ที่ดำเนินการไปได้ระดับหนึ่ง แต่ยังไม่เสร็จสิ้น และในวันที่ 31 ต.ค.จะดำเนินการต่อ
ทั้งนี้ ในช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา ผอ.ศปภ.ติดต่อประสานงานขอร้องให้บริษัทอิตาเลียนไทย
ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่ของประเทศเข้ามาช่วยทำงานเสริมอีกแรง เพื่อเร่งให้คันกั้นน้ำริมคลองประปามีความมั่นคงแข็งแรง และเป็นหลักประกันว่า การใช้น้ำประปาของคนกรุงเทพฯ จะมีความปลอดภัย นอกจากนี้ ศปภ.ระดมเจ้าหน้าที่อีก 500 คน มาช่วยอีกแรง
อย่างไรก็ตาม เรื่องคุณภาพน้ำประปาขณะนี้ กปน.แจ้งว่า ยังรักษาระดับได้ตามเดิม แต่จะมีการเพิ่มสารกำจัดกลิ่นในกรณีที่น้ำอาจจะมีกลิ่นผิดเพี้ยนไปบ้าง เนื่องจากน้ำยังคงตกค้างอยู่ในท่อ แต่เพื่อความสบายใจจะต้นก่อนบริโภคก็จะเป็นเรื่องที่ดี
นายธงทอง กล่าวถึง จำนวนผู้พักพิงที่ตกค้างอยู่ที่สนามบินดอนเมือง เพราะศูนย์นี้เป็นศูนย์แรกที่จัดตั้งขึ้น พร้อมกับ ศปภ. ต่อมาศปภ.ก็ทยอย อพยพผู้พักพิงไปตามศูนย์ต่างๆ อย่างเต็มที่ ขณะนี้ผู้พักพิงทยอยไปอยู่ตามกทม.และต่างจังหวัดจำนวนสุดท้ายที่เหลืออยู่ที่ดอนเมือง มีจำนวน 250 คน
ขณะเดียวกัน จากการศปภ.ย้ายมาประจำที่กระทรวงพลังงานมีประชาชนหลายคนกังวลเกี่ยวกับสิ่งตกค้างที่ดอนเมือง ขอแจ้งว่า ตามที่ประชาชนบริจาคเสื้อผ้ามาให้มีทั้งใหม่และเก่า ในส่วนเสื้อแล้วต้องซักและทำความสะอาดก่อนที่จะแจกจ่าย
ภาพที่หลายคนเห็นอาจจะมีความกังวล ขอเรียนว่า ในส่วนนี้เป็นเสื้อผ้ามือสอง ทางศปภ.ไม่ได้ทิ้ง แต่ประสานงานกับกองทัพไทยและกระทรวงพม.รับไปซักรีดเพื่อเตรียมใช้ประโยชน์ต่อไป
นอกจากนี้ ในเรื่องของน้ำดื่มบรรจุขวด ซึ่งเป็นที่ต้องการของประชาชนจำนวนมาก ตนเรียนว่าทางราชการจัดซื้อน้ำดื่มไว้แล้ว 3 ล้านขวด นอกจากนั้น มีน้ำที่บริจาคมา อีก 3.3 ล้านขวด วันนี้เหลืออยู่ ในสต็อกเพื่อสำรองแจกจ่ายประชาชนจำนวน 2 แสนขวด ส่วนที่ตกค้างอยู่ที่ดอนเมืองและขนย้ายมาไม่ทันเป็นจำนวนเกินพันขวด
เรียนว่าศปภ.ไม่ได้ทิ้งขว้างแต่จำเป็นต้องเก็บไว้เพื่อแจกจ่าย ส่วนเรือมีทั้งซื้อและได้รับบริจาค และมีการแจกจ่ายออกไปบ้าง
แต่ก็มีความจำเป็นต้องเก็บสำรองไว้ เรือที่ตกค้างอยู่ที่ดอนเมือง เป็นเรือที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ และในวันนี้จ.นครปฐมก็ได้รับเรือไปใช้งานในเขตพื้นที่ของจ.นครปฐมที่เริมประสบน้ำท่วมแล้วในบางพื้นที่