เฝ้าระวัง...มิจฉาชีพศูนย์อพยพราชมังคลา

เฝ้าระวัง...มิจฉาชีพศูนย์อพยพราชมังคลา


'เฝ้าระวัง...มิจฉาชีพ' : ขอดเกล็ดดาวเงิน พ.ต.ท.รังสรรค์ ยิ่งยงดำรงสกุล รองผกก.ป.สน.หัวหมาก

            ยามวิกฤติ...ภายในสนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน ย่านหัวหมาก ห้องพักนักกีฬาถูกปรับเป็นศูนย์อพยพช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม มีประชาชนผู้เดือดร้อนนับพันคนทยอยเข้ามาพักพิงอาศัย จังหวะเดียวกันอาจมีมิจฉาชีพสวมรอยเข้ามาก่อเหตุได้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงสั่งการให้โรงพักทั้ง 8 แห่งในพื้นที่ บก.น.4 ส่งกำลังตำรวจ 60 นายหมุนเวียนเข้ามาดูแลความปลอดภัยพี่น้องประชาชนตลอด 24 ชั่ว

   โดยมีการตั้งศูนย์อำนวยการ ขึ้นมาเป็นสัดส่วนสร้างความอุ่นใจให้ผู้ประสบภัยได้ไม่น้อย และเมื่อวันก่อนเพิ่งจับกุมตำรวจปลอมได้ จึงยิ่งเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยให้มากขึ้น พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประสบภัยเฝ้าระวังทรัพย์สินของมีค่าไว้ให้ดี
    
 "ที่มีตำรวจ 60 นายคอยหมุนเวียนมาดูแลความปลอดภัย เพื่อไม่เป็นการเปิดโอกาสให้เหล่ามิจฉาชีพคิดฉวยโอกาสชาวบ้านผู้ประสบภัยที่หนีร้อนมาพึ่งเย็น แล้วยังมาเจอการลักวิ่งชิงปล้นยังสนามกีฬาแห่งนี้"พ.ต.ท.รังสรรค์ ยิ่งยงดำรงสกุล รองผกก.ป.สน.หัวหมาก หรือ "รองชู" เปิดเผยภารกิจ ขณะที่สายตายังคอยสอดส่ายเฝ้าระวังภัยรอบพื้นที่ 
    
 "เมื่อมีคนเยอะๆ มาอยู่รวมกันนั้นก็ต้องระวังมิจฉาชีพ ขอให้อย่าเก็บทรัพย์สินไว้ในรถที่มาจอดหนีน้ำท่วม หรือบางคนนำรถมาจอดเพื่อเป็นจิตอาสา แล้วมีคนมาพยายามทุบกระจกมาทุบกระจกเพื่อชิงทรัพย์ รวมทั้งผู้ประสบภัยที่เพิ่งย้ายมาถ้านำสิ่งของมีค่ามาด้วยขอให้เก็บไว้กับตัว เพราะคนที่นี่เยอะ เกรงว่าจะมีมิจฉาชีพที่ปลอมมาเป็นอาสาสมัครปลอมจะถือโอกาสซ้ำเติมได้" พ.ต.ท.รังสรรค์แนะนำ  
    
 ยามปกติ...ตำรวจ สน.หัวหมาก ก็ทำงานหนักเป็นเท่าตัวอยู่แล้ว เนื่องจากพื้นที่สนามราชมังคลาฯ มักเป็นสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษอยู่เสมอๆ แต่ก็แตกต่างกับการถูกใช้เป็นสถานที่อพยพของผู้ประสบภัย ซึ่งตำรวจเฝ้าระวังดูแลความปลอดภัยเป็นพิเศษตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบางนายก็กลายเป็นผู้ประสบภัยเสียเอง แต่ก็ยังต้องมาปฏิบัติหน้าที่ ก็เท่ากับว่าต้องทำงานหนักเป็น 3 เท่า
    
"ถึงแม้ว่าตำรวจเราต้องทำงานหนักขึ้น "สามเท่า" แต่ก็ยินดี เพื่อความปลอดภัยของประชาชน และอยากจะเชิญชวนหากใครที่ไม่โดนน้ำท่วม อยากให้มาช่วยเป็นอาสาสมัคร ช่วยยกของ ทำกับข้าว หรือแค่มานั่งพูดคุยเป็นเพื่อนเขาก็ยังดี อยากให้มาช่วยกันเยอะๆ นะครับ" พ.ต.ท.รังสรรค์ ชักชวน 
    
 เส้นทางสายตำรวจของ พ.ต.ท.รังสรรค์ ผ่านงานบริการและช่วยเหลือประชาชนมาตั้งแต่จบ นรต. รุ่น 47 เริ่มงาน รอง สว.สอบสวน สน.คลองตัน จากนั้นไปเป็นผู้บังคับหมวดที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ก่อนมาเป็น รองสว.สส.สตม. โยกมาเป็นผู้ช่วยนายเวร ผู้ช่วยผบ.ตร. ขยับเป็น สวป.สน.นพวงศ์ และเป็น สว.รฟ.มักกะสัน และโยกเป็น สว.ทล.กบินทร์บุรี และรองผกก.ตำรวจท่องเที่ยว และย้ายมาเป็นรองผกก.สน.หัวหมาก 3 ปีแล้ว



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์