ศปภ.เล็งย้ายที่ทำการไป 2 จุด"ศูนย์ประชุมสิริกิติ์-สนามศุภฯ" ด้าน"วิม"เผยไม่อยากย้าย แต่ขรก.ลำบาก เร่งซื้อเครื่องปั่นไฟ เครื่องสูบน้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) ว่า ขณะนี้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผอ.ศปภ. ได้ประชุมร่วมกับนายกฯ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ทีมงานที่ปรึกษา ตลอดจนคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาดูแลบริหารจัดการน้ำ เป็นระยะๆ เพื่อประเมินสถานการณ์น้ำที่กำลังเข้าท่วมกรุงเทพฯ บางส่วนแล้ว
ขณะเดียวกันท่าอากาศยานดอนเมืองซึ่งเป็นสถานที่ทำการของศปภ.
ได้เริ่มมีน้ำท่วมขังสูงขึ้นเรื่อยๆ เส้นทางการจราจรบนถนนวิภาวดีบริเวณหน้าศปภ.ใช้การไม่ได้ เบื้องต้นศปภ.จึงได้ทำการเร่งขนย้ายผู้อพยพที่อยู่ในท่าอาศยานดอนเมืองออกไป ก่อนจะย้ายที่ทำการศปภ.ไปในอีก 2-3 วันนี้ โดยได้วางสถานที่เป็นศูนย์ฯ แห่งใหม่ไว้ที่สนามศุภชลาศัย เนื่องจากมีเนื้อที่กว้างขวาง มีลานให้เฮลิคอปเตอร์ขึ้นลงได้ อีกที่หนึ่งคือ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่มีความพร้อมเรื่องอุปกรณ์การสื่อสาร มีบริเวณกว้างขวางเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ศปภ.ยังได้หารือกันอย่างเคร่งเครียดถึงแผนการอพยพผู้ที่อาศัยอยู่ในกทม.ครั้งใหญ่ โดยพยายามที่จะนำคนออกจากกทม.ไปยังต่างจังหวัดให้มากที่สุดในระยะนี้ เบื้องต้นจึงทำการประกาศหยุดยาว 5 วันให้ประชาชนกลับภูมิลำเนา แต่หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายอาจมีการประกาศวันหยุดเพิ่มเติม
ขณะเดียวกันก็ได้มีแผนประสานไปยังผู้ประกอบการขนส่งต่างๆ ให้ประชาชนโดยสารฟรี หรือเก็บค่าโดยสารเพียงเล็กน้อย
โดยรัฐจะรับผิดชอบส่วนนี้แทน นอกจากนี้ยังได้เตรียมสถานที่ในจังหวัดใกล้เคียงที่ประสบอุทกภัยเพื่อเป็นศูนย์อพยพขนาดใหญ่รองรับคนจำนวนหลักแสน เช่นที่ จ.กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ชลบุรี นครราชสีมา เป็นต้น โดยสถานที่หลักๆที่เตรียมไว้รองรับคือ โรงเรียน มหาวิทยาลัย สนามกีฬา และพื้นที่ทหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางศปภ.ได้ประเมินสถานการณ์ว่า หากสถานการณ์น้ำท่วมถึงขั้นเลวร้ายที่สุด คือ จะท่วมทั้งกรุงเทพฯ ดังนั้นจะมีการแจ้งให้ประชาชนทราบถึงระดับน้ำท่วมในแต่่ละพื้นที่ว่าจะสูงแค่ไหน โดยจะทำเป็นแผนที่ทุกเขตของกทม.ระบุเป็นพื้นที่สีต่างๆ บอกระดับน้ำ้ำ
ขณะเดียวกันศปภ.ได้พยายามปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานใหม่
จากที่เคยเน้นการแจกสิ่งของไปให้ประชาชน ก็จะเปลี่ยนเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนดูแลตนเอง ต่อสู้กับน้ำท่วม และจะคาดการณ์ล่วงหน้าในแง่ที่สถานการณ์เลวร้าย พร้อมทั้งเร่งทำการอพยพคนล่วงหน้า ซึ่งจะทำให้ง่ายกว่าตอนที่น้ำท่วมแล้ว
นอกจากนี้ศปภ.ยังได้เร่งหาเครื่องมือที่จะต่อสู้หรืออยู่กับน้ำ เช่น เรือ เครื่องปั่นไฟ เครื่องสูบน้ำ และรถออฟโรด
โดยเร่งซื้อ เร่งเช่าจากภาคเอกชน ล่าสุดได้มอบหมายให้นายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ขนเงินสดขึ้นเครื่องบินไปซื้อเครื่องสูบน้ำมาจากประเทศจีนประมาณ 1 พันเครื่อง ยกมาทันทีเพื่อความรวดเร็ว
ด้านนายวิม รุ่งวัฒนจินดา โฆษกศปภ. ให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับความชัดเจนของการย้ายศปภ.ออกจากท่าอากาศดอนเมืองนั้น
ความจริงแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ต้องการย้ายไปไหน เพราะเมื่อประชาชนเดือดร้อนก็พร้อมที่จะอยู่ในภาวะเดียวกับประชาชน ซึ่งเรายอมรับสภาพได้ แต่ปัญหาคือข้าราชการจำนวนมากที่ทำงานภายในศปภ.เดินทางมาทำงานไม่ได้หรือมาด้วยความยากลำบาก ดังนั้นแม้ไม่อยากย้ายแต่ก็ต้องพิจารณาหาสถานที่ที่เหมาะสมสะดวกต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ รองรับหน่วยงานต่างๆที่มาร่วมอยู่ที่ศปภ.เป็นจำนวนมากได้
เบื้องต้นได้มองไว้หลายแห่ง เช่น ทำเนียบรัฐบาล ศูนย์ราชการ ศูนประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และสนามศุภชลาศัย
โดยตัวเลือกอันดับแรกคือ สนามศุภชลาศัย แต่มีปัญหานิดหน่อยเพียงว่าเป็นศูนย์รับบริจากและศูนย์อพยพด้วย ขณะที่ตัวเลือกที่สองคือ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ อย่างไรก็ตาม กำลังพิจารณาตัวเลือกตั้งหมดอยู่ ทั้งนี้ศปภ.ได้วางแผนเตรียมการอพยพครั้งใหญ่ให้ประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงโดยศปภ.จะมีคำสั่งไปยังกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ให้รับผิดชอบอย่างชัดเจน