ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ว่า เครื่องจักรขนาดใหญ่จำนวนมากต่างเร่งนำก้อนหินขนาดใหญ่ ทั้งที่ใส่รถบรรทุกมาเสกอง และหินที่ถูกบรรจุในตะกร้าเหล็ก มาทิ้งและเรียงขวางเพื่อปิดกั้นทางสะพานคลองข้าวเม่า ถนนสายเอเชีย กม.23 ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเป็นแนวชะลอน้ำไหลจากแม่น้ำป่าสักจำนวนมหาศาล ที่ไหลบ่าข้ามทุ่งหันตรา เข้ามาลงคลองข้างเม่า โดยทางน้ำไหลดังกล่าวจะไหลต่อไปยังพื้นที่ อ.อุทัย นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ พื้นที่ อ.วังน้อย ,อ.บางปะอินฝั่งตะวันออก และไหลเข้าพื้นที่ จ.ปทุมธานี ฝั่งตะวันออก และพื้นที่กรุงเทพฝั่งตะวันออก
โดย อย่างไรก็ตามการทำแนวคันหินเพื่อชะลอน้ำไหล พบว่าทำให้กระแสน้ำเริ่มเปลี่ยนทิศและเข้าไปกัดเซาะถนนสายเอเซียเส้นทางคู่ขนาน เส้นทางมุ่งหน้าภาคเหนือ ลึกเข้ามาประมาณ 3 -4 เมตร จนชาวบ้านหวั่นว่าจะทำให้ถนนขาดเช่นกัน สำหรับจุดดังกล่าวนี้เคยมีข้อพิพาทระหว่างรัฐ และ ประชาชน โดยรัฐต้องการปิดทางน้ำไหลเพื่อหยุดไม่ให้น้ำไหลเข้ากรุงเทพในพื้นที่ฝั่งตะวันออก แต่ประชาชนที่ปากคลองและใกล้เคียงไม่ยอม เพราะมีระดับน้ำท่วมสูงในชุมชนกว่า 4 เมตร และหากปิดทางน้ำได้น้ำในชุมชนจะเพิ่มสูงกว่านี้อีกมาก จนต้องมีความพยายามกว่า 2 สัปดาห์ในการเจราจร จนท้ายที่สุด ประชาชนชาว จ.พระนครศรีอยุธยา เริ่มยินยอมให้ทำแนวหินกั้นน้ำปิดปากคลองตรงคอสะพานดังกล่าว
ด้านนายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข และ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนที่พวกเราเสียสละกันอีกครั้งเพื่อช่วยชะลอน้ำที่จะไหลไป จ.ปทุมธานี และกรุงเทพ ฝั่งตะวันออก เชื่อว่าจะใช้เวลาอีกหลายวันในการทำแนวหินเพื่อชะลอน้ำไหล เพราะต้องไปขนหินมาจาก จ.สระบุรี และการทำงานมีปัญหาที่กระแสน้ำไหลรุนแรงมาก อย่างไรก็ตาม ทั้งแขวงการทางและชลประทาน รวมถึงหน่วยงานปกครอง และประชาชน ต่างช่วยกันทำงานเพื่อช่วยในการแก้ไขปัญหานี้