ปชป.จี้ "หญิงหน่อย"หยุดใส่ร้าย กทม.ทำน้ำท่วมกรุง หวั่นโกลาหลหาก กปน.หยุดผลิตน้ำ วันนี้ (22ต.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ทางพรรคฯขอแสดงความเสียใจกับการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลที่ไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ จนต้องมาใช้วิธีสุดท้ายคือ บิดเบือนข้อเท็จจริง และใส่ร้ายว่าเป็นความผิดของทางกทม. หรือพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะพรรคฝ่ายค้าน นอกจากนี้การที่รัฐบาลจะประกาศใช้พ.ร.บ.ป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัยนั้น นายกรัฐมนตรีก็เคยได้ระบุว่า ไม่จำเป็นต้องมีการแก้กฎหมายพิเศษเพื่อใช้แก้ปัญหา แต่สุดท้ายกลับมาใช้กฎหมายพิเศษตามที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เคยเสนอไว้ เพียงแต่แก้เกี้ยวจาก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการฉุกเฉินมาเป็นพ.ร.บ.ป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัยเนื่องจากไม่สามารถรับข้อเสนอฝ่ายค้านได้โดยตรง
นายชวนนท์ กล่าวอีกว่า การที่นายกรัฐมนตรีระบุ ให้หยุดการนำเรื่องต่างๆมาเป็นประเด็นทางการเมืองนั้น ตนก็ขอถามกลับไปว่า ฝ่ายค้านเคยนำเรื่องอะไรมาเป็นประเด็นทางการเมืองมีแต่พวกท่านทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นการกล่าวให้ร้ายทหาร พังคันกันน้ำ โดยเฉพาะคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ที่ปรึกษาผู้อำนวยการ ศปภ. ที่กล่าวให้ร้ายว่ากทม.ไม่ให้ความร่วมมือในการเปิดประตูน้ำสามเสนนั้น ตนก็ขอชี้แจงว่า ประตูน้ำสามเสนนั้นไม่ได้อยู่กับความรับผิดชอบของทางกทม. แต่เป็นความรับผิดชอบของการประปานครหลวง(กปน.) ซึ่งทางผู้ว่ากปน.ก็ได้ระบุแล้วว่า ประตูน้ำเกิดการชำรุด แต่เมื่อขอความช่วยเหลือทางกทม.ก็ให้ความร่วมมืออย่างดี ดังนั้นจึงอยากถามกลับไปยังคุณหญิงสุดารัตน์ว่า ทำไมไม่ใช้ประสบการณ์ในการแก้ปัญหาแทนที่จะโยนความผิดเพื่อหาทางรอดให้แก่รัฐบาล
“ ขอเรียกร้องให้คุณหญิงสุดารัตน์ ออกมาขอโทษประชาชนว่าเรื่องดังกล่าวนั้นเป็นความผิดของใครกันแน่ ผมเสียใจมากที่การบริหารราชการของผู้ที่มีอำนาจไม่ได้มีความจริงใจในการแก้ปัญหา ซ้ำยังหนีปัญหา และสร้างเรื่องบิดเบือนให้ประชาชน และเชื่อว่าการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการแก้ปัญหาน้ำท่วมนั้นเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดมากกว่าการประกาศใช้พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย”
นอกจากนี้นายชวนนท์ ยังกล่าวว่า หากระดับน้ำในคลองประปาสูงเพิ่มขึ้น ทาง กปน.อาจจะต้องหยุดการผลิตน้ำ 70 % ของผู้ใช้บริการในประเทศ ซึ่งถ้ายังปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ก็จะทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นแน่นอน ในส่วนที่นายกรัฐมนตรีได้ขอความร่วมมือนั้นสิ่งเดียวที่ทางกทม.ต้องการคือข้อมูลที่มีเป็นความจริงเพื่อการแก้ปัญหาที่ตรงจุด เพราะที่ผ่านมาทางกทม.ไม่เคยได้รับทราบข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงเลย