ภายหลังจาก สมิทธ ธรรมสโรช ประธานมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ออกมากล่าวเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่ามีพายุตามมาอีก 2 ลูกในทะเลจีนใต้ เป็นพายุไต้ฝุ่น ลูกแรกคือ "เนสาท" ส่วนลูกที่ 2 เป็นพายุดีเปรสชั่น "ไห่ถาง" มีแนวโน้มสูงที่จะเข้ามาถล่มภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือต่อจาก "เซินกา" นั้น วันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ยืนยันว่าพายุ 2 ลูกดังกล่าว ขณะนี้ได้เคลื่อนตัวผ่านไปยังประเทศไต้หวัน ซึ่งได้ผ่านพ้นประเทศไทยไปแล้วและไม่ส่งผลกระทบต่อไทยอีก ดังนั้นประชาชนชาวไทยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดน้ำท่วมซ้ำเติมอีก เพราะในช่วง 1-2 วันนี้ปริมาณฝนตกไม่หนัก
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วม จ.สกลนคร วัชรพงศ์ ศรีสำราญ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทานสกลนคร กล่าวว่า หากฝนไม่ตกมาซ้ำอีกคาดว่าไม่เกิน 10 วัน จะคลี่คลายกลับเข้าสู่สภาวะปกติ เนื่องจากขณะนี้กรมชลประทานได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 26 เครื่อง เร่งระบายน้ำจากหนองหารและลำน้ำก่ำลงสู่แม่น้ำโขงที่ จ.นครพนม โดย 4 เครื่องติดตั้งที่ประตูระบายน้ำธรณิศนฤมิต ส่วนอีก 22 เครื่อง ติดตั้งที่บริเวณประตูระบายน้ำลำน้ำก่ำ ได้แก่ ประตูระบายน้ำบ้านนาขาม ประตูระบายน้ำบ้านนาคู่ บริเวณสะพานด่านม่วงคำ ประตูระบายน้ำบ้านหนองบึง และประตูระบายน้ำสุรัสวดี ซึ่งจะทำให้ความเร็วการระบายน้ำเพิ่มขึ้นจากปกติวันละ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เป็นวันละ 40-50 ล้าน ลบ.ม.
"ระดับน้ำหนองหารเมื่อวันที่ 30 ก.ค. วัดที่ประตูระบายน้ำสุรัสวดีอยู่ที่ระดับ 158.52 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ปริมาณน้ำฝน 40.30มิลลิเมตร ซึ่งยังคงมีระดับที่เพิ่มขึ้นจากเช้าวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา 1.50 เมตร หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มอีก แนวโน้มระดับน้ำจะทรงตัวและลดลงตามลำดับ คาดว่าน้ำท่วมจะคลี่คลายไม่เกิน 10 วัน" วัชรพงศ์ กล่าว
สถานการณ์น้ำท่วมภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลายจังหวัดยังน่าเป็นห่วง เช่นที่
จ.กาฬสินธุ์ เขื่อนลำปาวระบายน้ำ 5 อำเภอรับน้ำเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน คือ เมืองกาฬสินธุ์ ยางตลาด กมลาไสย ร่องคำ และฆ้องชัย เช่นเดียวกับ
จ.นครพนม มวลน้ำจาก จ.สกลนคร กำลังไหลจากหนองหารไปยังลุ่มน้ำก่ำ อ.นาแก น้ำเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรเสียหายหลายพันไร่
จ.เพชรบูรณ์ แม่น้ำป่าสักทะลักท่วมชุมชนและย่านเศรษฐกิจ อ.หล่มสัก จมบาดาลแล้วกว่า 3,000 หลังคาเรือน เดือดร้อนกว่า 5,000 คน และเกิดเหตุสลดไฟฟ้าชอร์ตชาวบ้านใหม่ ต.ตาลเดี่ยว อ.หล่มสัก เสียชีวิต 1 ศพ ที่
จ.พิจิตร ฝนยังตกหนักและมวลน้ำจาก อ.เนินมะปราง
จ.พิษณุโลก ไหลบ่าเข้าท่วม 9 อำเภอ 22 ตำบล 153 หมู่บ้าน ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหายแล้วกว่า 4 หมื่นไร่
ทั้งนี้ อิทธิพลพายุ "เซินกา" ทำให้เกิดฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 5-29 ก.ค.ที่ผ่านมา ฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ได้เกิดอุทกภัยทั้งหมด 42 จังหวัด ซึ่งคลี่คลายแล้ว 23 จังหวัด ยังเหลือ 19 จังหวัด