นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ปภ.ได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งแล้ว 13 จังหวัด รวม 60 อำเภอ 333 ตำบล 3,092 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 4.12 ของจำนวนหมู่บ้านทั่วประเทศ แยกเป็นพื้นที่ขาดแคลนน้ำด้านการเกษตร 12 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก เชียงราย มหาสารคาม สระแก้ว นครราชสีมา นครพนม พะเยา เชียงใหม่ กาญจนบุรี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด และสุรินทร์ พื้นที่ขาดแคลนน้ำด้านการอุปโภคบริโภค 1 จังหวัด ได้แก่ อุตรดิตถ์
โดย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง โดยการสนับสนุนการผลิตน้ำประปา ส่งน้ำเข้าพื้นที่การเกษตร และแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคแก่ประชาชน พร้อมสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการขุดเจาะบ่อบาดาลหรือบ่อน้ำตื้น จำนวน 100 บ่อ เพื่อเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำและสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง รวมทั้งขุดลอกคูคลองและปรับปรุงสภาพแหล่งน้ำเดิม และสร้างแหล่งกักเก็บน้ำใหม่
นายฉัตรชัย กล่าวว่า ปัจจุบันมี 25 จังหวัด ที่ได้ใช้งบประมาณจากเงินทดรองราชการในเชิงป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน วงเงินจังหวัดละ 10 ล้านบาท ตลอดจนดำเนินโครงการคลองสวยน้ำใส คนไทยมีความสุข ใน 29 จังหวัด ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนในพื้นที่ ส่งผลให้ระบบการไหลเวียนของน้ำ การกระจายน้ำและการระบายน้ำมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งการขุดเจาะบ่อบาดาล เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งในจังหวัดที่มีพื้นที่ประสบภัยแล้งซ้ำซากเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
