20 พ.ค.58 พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัชมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ ถึงการแก้ปัญหาชาวโรฮิงญา ว่า สำหรับเรื่องการปฏิบัติต่อชาวโรฮิงจานั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมกับผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการคำรวจแห่งชาติ ก็ได้รับทราบถึงแนวทางการปฏิบัติแล้วภายหลังลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต นอกจากนี้ยังมีในส่วนของกองอำนวยรักษาความมั่นคงภายในแห่งราชอาณาจักรภาค4ส่วนหน้าแยก1(กอ.รมน.ภาค4สน.1) ต้องกำกับดูแลในเรื่องนี้ โดยมีกองบัญชาการอยู่ที่จ.ระนองจะดูภาพรวมทั้งหมด เพื่อให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนยืนยันไม่มีการผลักดัน หรือผลักไสไล่ส่ง แต่ต้องเข้าใจไทยเป็นประเทศกลางทาง ไม่เป็นความประสงค์ของชาวโรฮิงจาที่เดินทางจากประเทศต้นทาง โดยมุ่งหวังไปประเทศที่สามหรือประเทศปลายทาง และมีการเคลื่อนย้ายทางทะเลเป็นหลัก ก็จะมีการตรวจสอบ หากเข้ามาในพื้นที่เขตน่านน้ำไทย เราจะส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแล ว่ามีอาการเจ็บป่วยหรือไม่ หากเจ็บป่วยจะนำเข้ามารักษาพยาบาล แต่หากมีความประสงค์จะเดินทางต่อไปตามจุดหมายของเขา ก็ต้องปล่อยไปตามนั้น เราคงไปบังคับอะไรไม่ได้ หากไม่ต้องการเดินทางต่อเขาต้องเข้าสู่ระบบการถูกควบคุมตัวเพราะหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย ถือเป็นลักษณะการปฏิบัติที่ถูกต้องไม่มีการละเมิดและจะดูแลตามสิทธิมนุษยชนอย่างดีที่สุด
"ไทยถูกจับจ้องจากองค์กรต่างๆนอกประเทศ ที่ยังไม่เข้าใจซึ่งหากประเทศเหล่านั้นดูแลเรื่องสิทธิให้กับชาวโรฮีนจาที่หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย และถ้าช่วยประเทศไทย ก็ช่วยรับไปดูแลบ้างก็จะดี ซึ่งองค์กรต่างๆ ต้องเห็นใจประเทศไทยด้วย เนื่องจากเราแบกรับภาระมามาก ถ้าเห็นว่า ประเทศไทยควรทำอย่างไรให้ถูกต้องตามหลักสิทธิมนุษยชน ชาวโรฮีนจาที่หลบหนีเข้ามาอาจจะต้องการไปประเทศที่มีความพร้อม ซึ่งมีหลายประเทศที่จ้องมองประเทศไทยว่า ควรจะทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง และที่ผ่านมา ไทยก็ดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้อง แต่ท่านช่วยรับชาวโรฮีนจากลับไปด้วย เพราะประเทศของท่านมีความพร้อมเช่นกัน" พล.อ.อุดมเดช กล่าว
พล.อ.อุดมเดช กล่าวต่อว่า พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกำลังประชุมหารือที่ประเทศมาเลเซีย เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว และในวันที่29พ.ค.จะมีการประชุมกับประเทศและองค์กรที่เกี่ยวข้องอีกครั้งในประเทศไทย คงจะได้กรอบแนวทางที่ชัดเจน ทั้งนี้การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ทำงานเต็มที่อยู่แล้วเพื่อให้เห็นว่าเราจริงจังกับการแก้ปัญหา
"ผมได้พูดคุยกับผบ.ตร.ว่าหากพบทหารเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ให้ลงโทษเด็ดขาด ไม่ต้องเกรงใจ ให้ดำเนินการเต็มที่เพราะคนดีต้องรักษา เชิดชู ให้รางวัล ส่วนคนไม่ดีต้องไม่ให้บทบาทและไม่ให้อยู่ในกองทัพต่อไปตามระเบียบขั้นตอนของกองทัพ ถ้าเข้าข่ายคดีอาญาก็ต้องดำเนินการจนถึงขั้นปลด ขอให้สบายใจว่ากองทัพบกจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา หากใครมีหลักฐานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอดำเนินการเต็มที่ กองทัพพร้อมให้ความร่วมมือ" พล.อ.อุดมเดช กล่าว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
