"คู่กรณี" ที่ขับรถชน "น้องการ์ตูน" วิ่งโร่รีบชี้แจง ยันไม่เคยทอดทิ้งการรักษา โชว์ใบเสร็จจ่ายเบื้องต้นให้รพ.ไปแล้ว รวม 2.4 แสน ย้ำไม่เคยคิดหนี ยินดีชดใช้ทั้งหมด แต่ขอทยอยผ่อนจ่ายเป็นงวดๆ ขณะที่ "แม่เด็ก" ยืนยันจะให้ดูแลน้องให้มากที่สุดก่อน ส่วนเรื่องอื่นค่อยว่าทีหลัง
กรณีการรักษาพยาบาลของ "น้องการ์ตูน" วัย 5 ขวบ ซึ่งถูกรถกระบะชนเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 57 จนสมองได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงและเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล จนถึงปัจจุบัน ที่มีค่าใช้จ่ายสูง 2 ล้านกว่าบาท กระทั่งคนในสังคมออนไลน์โดยเพจ The Dark Knights ll และเพจ Drama-addict มีการรวมตัวกันช่วยเหลือเรื่องเงินบริจาค และมีการโอนเงินส่งมอบให้น.ส.ศรัญญา ชำนิ แม่ของน้องการ์ตูน ไปแล้ว 1 ล้านบาท ซึ่งแม่ของน้องการ์ตูน ระบุว่าขอรอเจรจาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีในวันจันทร์ที่ 12 ม.ค.นี้ก่อน ว่าทางคู่กรณีจะมีเงินมาจ่ายให้หรือไม่ ซึ่งถ้าคู่กรณีไม่มีจริงๆ ก็คิดไว้แล้วว่า จะนำเงินส่วนหนึ่ง ไปจ่ายให้กับโรงพยาบาลก่อน ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านั้น
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ น.ส.น้ำผึ้ง ใจเสงี่ยม ผู้ต้องหาในคดีนี้ หลังทราบข่าวดังกล่าว ได้ติดต่อขอชี้แจงกับ "เดลินิวส์ออนไลน์" ว่า ในวันที่ 12 ม.ค.นี้ ตนพร้อมจะเดินทางเข้าไกล่เกลี่ยในคดีนี้กับแม่ของน้องการ์ตูน ตามที่ศาลได้นัดหมายไว้ และยินดีจะชดใช้ค่าเสียหาย ไม่คิดจะปฏิเสธความรับผิดชอบ และก่อนหน้านี้ที่มีการส่งต่อข้อความทางโลกออนไลน์ และสื่อหลายแห่ง ระบุว่า ตนไม่เคยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของน้องการ์ตูนเลยนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะตั้งแต่เกิดเรื่อง ตนได้เข้าไปเซ็นยอมรับเป็น “ผู้ร่วมชำระหนี้” และผ่อนจ่ายค่าใช้จ่ายกับทางโรงพยาบาลเป็นระยะๆ รวมแล้วทั้งสิ้น 240,326 บาท อีกทั้งยังจ่ายค่าซ่อมแซมร้านที่เสียหาย และรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายอื่นๆ อีกประมาณ 150,000 บาท รวมที่ตนจ่ายไปเบื้องต้นเวลานี้ 390,326 บาท ซึ่งยังไม่นับรวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ไม่มีบิลเงินสดมาสำแดง
น.ส.น้ำผึ้ง กล่าวต่อว่า ทางโรงพยาบาลไม่ยิมยอมให้เราเป็น "เจ้าของไข้" แต่เพียงผู้เดียว เนื่องจากน้องการ์ตูนยังเด็ก ต้องมีผู้ปกครองเซ็นรับรองในการรักษา ขณะนี้จึงทำได้เพียงเป็น "ผู้ร่วมชำระหนี้" แต่อีกกรณีหนึ่งคือ ทางโรงพยาบาลแจ้งว่า ตนจะต้องหาเงินมาจ่ายโรงพยาบาลก้อนแรก 70 เปอร์เซนต์ของค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด 2,200,000 บาท จึงจะยินยอมให้เป็นเจ้าของไข้ ซึ่งที่ผ่านมา ตนไม่เคยปฏิเสธความรับผิดชอบ แต่ขอทยอยจ่ายเป็นงวดๆ ไป จะกี่ปี ตนก็ยินดี ยกตัวอย่างเรื่องค่าซ่อมรถ ตนเจรจาว่า ขอให้นำมาซ่อมที่อู่ของคนที่ตนรู้จัก ส่วนค่าซ่อม เราจะทยอยจ่ายกับทางอู่เอง แต่ผู้เสียหายยังไม่ยินยอม แต่ต้องการเงินสดเพื่อไปซ่อมรถเอง เนื่องจากเกรงว่า อู่ของทางเรา จะซ่อมไม่ดี ซึ่งตรงนี้ทั้งสองฝ่ายยังตกลงกันไม่ได้
น.ส.น้ำผึ้ง กล่าวต่อว่า “ตั้งแต่เกิดเรื่อง ไม่เคยสบายใจเลย วิ่งหาเงินตลอด อะไรที่ทำแล้วได้เงิน ก็พยายามทุกวิถีทาง เพื่อนำเงินที่ได้มาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้น้อง เงินเก็บทั้งหมดที่มี ก็นำไปจ่ายหมดแล้ว ทุกวันนี้ต้องไปหยิบยืมญาติๆ มา หากเราคิดหนี ก็คงหนีไปตั้งแต่เกิดเรื่องแล้ว เราก็เป็นคนหาเช้ากินค่ำเหมือนกัน เข้าใจคู่กรณีดีถึงความสูญเสีย และไม่คิดจะปฏิเสธความรับผิดชอบ กำลังเรามีเท่าไร เราก็ให้หมด แต่ครั้นจะไปกู้เงินก้อนใหญ่ ก็ไม่มีใครให้กู้ เพราะเจ้าหนี้เขาก็ต้องดูกำลังของเราด้วย ว่าจ่ายดอกเบี้ยไหวไหม”
ทั้งนี้น.ส.น้ำผึ้งได้โชว์หลักฐานใบเสร็จการชำระค่าใช้จ่ายการรักษา "น้องการ์ตูน" ที่จ่ายให้กับรพ.บางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล มาโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดูด้วย โดยแยกเป็น เดือนก.ย.57 รวม 168,326 บาท เดือนต.ค.57 รวม 15,000 บาท เดือนพ.ย.57 รวม 25,000 บาท เดือนธ.ค. 57 รวม 26,000 บาท และเดือนม.ค.58 จนถึงวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา 6,000 บาท รวมเป็นเงินเบื้องต้นที่ชำระให้กับรพ.ไปแล้วทั้งสิ้น 240,326 บาท
ด้าน น.ส.ศรัญญา ชำนิ แม่ของน้องการ์ตูน กล่าวกับ “เดลินิวส์ออนไลน์” ว่า เรื่องค่าใช้จ่ายของน้องการ์ตูน ขอรอเจรจาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีในวันที่ 12 ม.ค.นี้ก่อน ว่าทางเขาจะมีมาจ่ายให้หรือไม่ ส่วนเรื่องรถที่เสียหาย เรามีสิทธิ์เลือกว่าจะซ่อมที่ไหน เราไม่ได้มองเขาในแง่ร้าย แต่เราคิดว่า หากเราเอาไปซ่อมอู่เขา แล้วเขาไม่มีเงินจ่าย เราจะเอารถออกจากอู่ได้อย่างไร และหากคิดในแง่ร้าย อู่เกิดซ่อมไม่ดี แม่ไปขับรถเกิดอุบัติเหตุตาย ไม่มีใครมาฟ้องร้องแล้ว เราไม่ได้คิดไม่ดีนะ แต่เราดูจากพฤติกรรมแล้ว ทำให้เราคิดในแง่ร้าย สุดท้ายเราขอ 250,000 บาท ก็ไม่ยอม ตอนนี้ทางครอบครัวก็ปรึกษากันว่า จะให้ทางคู่กรณีดูแลน้องให้มากที่สุดก่อน ส่วนเรื่องของพ่อน้องการ์ตูนที่เสียไปแล้ว ไว้ค่อยเจราจาทีหลัง
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
