พายุกระหน่ำเหนือ-อีสาน ฝนถล่มนครสวรรค์ท่วม

เมื่อวันที่ 4 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุภัยธรรมชาติ

ในพื้นที่ทางภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ชุมชนและการเกษตร อันเนื่องจากความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ขณะที่บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีคลื่นกระแสลมตะวันตกจากประเทศพม่าเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อน เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกได้ในบางพื้นที่

ทั้งนี้ เวลา 08.00 น. ที่ ต.แม่มอก และ ต.เวียงมอก อ.เถิน จ.ลำปาง ชาวบ้านกว่า 300 หลังคาเรือน ออกมาทำความสะอาดลานหน้าบ้านและรอบบ้าน

เก็บกิ่งไม้และใบไม้ที่ถูกแรงพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและพายุลูกเห็บขนาดเท่าลูกปิงปองตกใส่บ้านเรือนได้รับความเสียหาย ในพื้นที่ของทั้ง 2 ตำบลเสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน โดยเฉพาะ ต.แม่มอก อ.เถิน จำนวน 6 หมู่บ้าน เสียหายหนักมากที่สุดกว่า 60 หลังคาเรือน ส่วนสำนักงานสหกรณ์หมู่บ้านห้วยเกาะกลาง หมู่ 8 ต.แม่มอก หลังคาถูกแรงลมพัดเปิดออกเกือบทั้งหมด ยังมีโรงงานแปรรูปไม้ห้วยเกาะกลาง เป็นโรงงานขนาดใหญ่พังถล่มลงมาทั้งหลัง รวมทั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์หักโค่น

ที่ จ.นครสวรรค์ เกิดพายุฝนฟ้าคะนองหลายชั่วโมงในเขต อ.เมือง ทำให้น้ำท่วมหลายแห่ง เนื่องจากน้ำระบายไม่ทัน

อีกทั้งบ้านเรือนในชุมชนศูนย์ท่ารถนครสวรรค์เสียหายจำนวนหนึ่ง และชิ้นส่วนหลังคาของสถาบันกวดวิชาเอกชนแห่งหนึ่ง ถูกพายุพัดกระหน่ำจนหลุดห้อยติดกับสายไฟ บางส่วนหล่นทับรถจักรยานยนต์และรถยนต์ที่อยู่ใกล้เคียงกันหลายคัน มีรายงานอีกว่า ต้นไม้ใหญ่ภายในศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์หักโค่นทับรถยนต์เสียหายอีก 2 คัน ขณะที่ลานสนามบริเวณด้านหลังศาลากลางจังหวัด มีการตั้งเวทีขนาดใหญ่เพื่อเตรียมจัดงานคอนเสิร์ตช่อง 3 สัญจร ถูกแรงลมพายุฝนจนถล่มพังลงมาได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน

ที่ จ.อุบลราชธานี พายุฤดูร้อนสร้างความเสียหายให้กับ ต.ไร่น้อย อ.เมือง มีบ้านเรือน หมู่ 5 บ้านยางลุ่ม และหมู่ 4 บ้านยางเทิง เกือบ 30 หลัง เสียหาย และกิ่งไม้ใหญ่หล่นทับอาคารเรียนของโรงเรียนบ้านยางลุ่ม

ที่ จ.นครราชสีมา เกิดลมกระโชกแรงและฝนตกหนักในพื้นที่ อ.พิมาย
 
ทำให้น้ำท่วมถนนสายพิมาย-ชุมพวง บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 7-8 บริเวณ ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย สูงประมาณ 10-20 เซนติเมตร ก่อนลดระดับลง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นแอ่งกระทะอีกทั้งบริเวณไหล่ทางพื้นผิวการจราจรชำรุด ยังพบบ้านเรือนถูกพายุพัดเสียหายนับสิบหลัง บางหลังหลังคาหลุดหายไปทั้งแถบ สำหรับบ้านเรือนที่เสียหาย ที่ ต.รังกาใหญ่ มีทั้งหมด 6 หมู่บ้าน 22 หลังคาเรือน ส่วนบ้านเรือนที่ประสบอุทกภัยเสียหาย 2 ตำบล ได้แก่ ต.รังกาใหญ่และ ต.โบสถ์ รวม 33 หลังคาเรือน

ด้านนายสงกรานต์ อักษร รองอธิบดีปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ยังได้ออกประกาศ
 
"พายุฤดูร้อน" ฉบับที่ 14 ลงวันที่ 04 เมษายน 2557 เวลา 16.00 น. ประเทศไทยหลายพื้นที่ยังมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ดังนี้ 1.ช่วงวันที่ 4-5 เมษายน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณ จ.เลย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี และในทุกจังหวัดของภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก 2.ช่วงวันที่ 6-7 เมษายน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น ชัยภูมิ และนครราชสีมา

.............

(ที่มา:มติชนรายวัน 5 เมษายน)