พายุถล่มไม้ใหญ่อายุนับร้อยปี โค่นทับบ้าน 3 หลัง หนุ่มดับอนาถ-ลูกเมียรอดหวุดหวิด
เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 2 เม.ย. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด แจ้งว่า มีรายงานว่าในพื้นที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้เกิดฝนตกอย่างหนัก พร้อมกับมีลมพายุพัดอย่างรุนแรง ขณะเดียวกัน ร.ต.ท.อุดร ภักษารัมย์ ร้อยเวร สภ.สตึก ได้รับแจ้งเหตุต้นไม้ใหญ่ (ที่ชาวบ้านเรียกว่าต้นกะซาว) อายุหลายร้อยปีหักโค่นลงมาทับบ้านเรือนประชาชน ทำให้มีผู้เสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 3 บ.ทุ่งวัง ต.ทุ่งวัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบบ้าน 2 ชั้น ครึ่งไม้ครึ่งปูน จำนวน 3 หลัง ถูกกิ่งก้านของต้นไม้กะซาวขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางร่วมเมตร
ซึ่งต้นไม้ดังกล่าวอยู่ข้างศาลหลวงปู่อุดม ห่างจากบ้านประมาณ 20 เมตร ลำต้นขนาด 5 คนโอบ อายุกว่า 100 ปี ถูกลมพายุพัดจนหักโค่นลงมาใส่บ้านเรือนทั้ง 3 หลัง ที่อยู่ใกล้กันพังเสียหาย และยังไม่สามารถนำกิ่งไม้และต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่ออกจากตัวบ้าน และล้มขวางถนนในหมู่บ้านได้ ต้องรอให้เจ้าหน้าที่มาดำเนินการต่อไป
จากการตรวจสอบ บ้านหลังแรก เลขที่ 81 มีนางเดือน บรรดาสิทธิ์ อายุ 40 ปี ขณะเกิดเหตุพักอาศัยอยู่ในบ้านกับลูกสาว อายุ 16 ปี ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่บ้านพังเกือบทั้งหลัง
ขณะบ้านหลังที่สอง เลขที่ 59 มีนายหล่อพงษ์ สายบัว อายุ 38 ปี
อาศัยอยู่ในบ้านกับนางสมใจ ภรรยา และลูกสาววัย 9 ขวบ ในที่เกิดเหตุมีพบนายหล่อพงษ์ นอนเสียชีวิตอยู่หน้าประตูบ้าน ในสภาพกะโหลกแตก แขนขวาหักสองท่อน สภาพบ้านพังเสียหายทั้งหลัง และรถไถนาเดินตามยังถูกกิ่งไม้หักทับพังอีก 1 คัน ส่วนบ้านหลังที่สาม เลขที่ 42 มีนางปรม บรรดาสิทธิ์ อายุ 65 ปี ขณะเกิดเหตุพักอาศัยอยู่ในบ้านกับหลานชาย อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของนายหล่อพงษ์ กับนางสมใจ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่บ้านพังเกือบทั้งหลัง
นางสมใจ สายบัว ภรรยานายหล่อพงษ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุมีลมพายุพัดแรงมากสามี จึงบอกให้ตนรีบไปอาบน้ำ
จากนั้นสามีได้เดินออกมาหน้าบ้านเพื่อจับไก่ชนที่เลี้ยงเข้าไปไว้หลังบ้าน เพราะเกรงว่าไก่จะเปียกฝน ขณะตนกำลังจะไปอาบน้ำก็ได้ยินเสียงต้นไม้ใหญ่ล้มทับตัวบ้านพังลงมา จึงรีบวิ่งเข้าไปดูลูกสาวซึ่งกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในบ้าน ก่อนจะตะโกนเรียกหาสามีแต่ก็เงียบหายไม่มีเสียงตอบรับ จึงพาลูกออกมาจากบ้านและตามหาสามีรอบบ้านก็พบร่างสามีนอนเสียชีวิตอยู่หน้าบ้าน ในสภาพกะโหลกศีรษะแตก แขนขวาหักสองท่อน
นางสมใจ กล่าวต่อว่า อยากวิงวอนหน่วยงานภาครัฐให้ความช่วยเหลือครอบครัว เพราะขาดสามีที่เป็นเสาหลัก และต้องเลี้ยงดูลูกอีก 2 คน
ด้านตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากมีลมพายุพัดแรง และก่อนหน้านี้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องทำให้ดินทรุด ประกอบต้นไม้ใหญ่มีอายุหลายร้อยปี และรากเริ่มผุกร่อนทำให้หักโค่นลงมาทับบ้านเรือนประชาชน ทำให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว
หลังจากนั้น นายสมพร บูรณขจร นายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)ทุ่งวัง และนายมนูญ มั่นเฮง กำนันตำบลทุ่งวัง อ.สตึก ได้เข้าตรวจสอบสภาพความเสียหาย พร้อมรายงานให้ทางอำเภอสตึก และจังหวัดทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเบื้องต้นแล้ว เพื่อที่จะช่วยเหลือต่อไป
พายุถล่มไม้ใหญ่อายุนับร้อยปี โค่นทับบ้าน 3 หลัง
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ภัยพิบัติ พายุถล่มไม้ใหญ่อายุนับร้อยปี โค่นทับบ้าน 3 หลัง