เปิดเผยว่า จากการติดตามตรวจสอบสภาวะอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่า ในช่วงวันที่ 26 - 28 ธ.ค.2556 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนเพิ่มเติม ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาว โดยทั่วไปอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ระหว่าง 8 - 14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24 -27 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 2 - 5 องศาเซลเซียส จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้จะทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนและพืชผลทางการเกษตรของเกษตรกรได้ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จึงขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ เด็กเล็กและผู้ยากไร้ ซึ่งอาจเจ็บป่วยจากภาวะอากาศหนาวเย็นรวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังอุบัติภัยร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นได้เช่น อัคคีภัย ไฟป่า อุบัติเหตุจราจรทางถนนในช่วงที่มีหมอกลงจัด โดยเฉพาะการเดินทางกลับภูมิลำเนาขอให้ฟังคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และทำตามกฎจลาจร
ทั้งนี้ สถานการณ์ภัยหนาวในเขตความรับผิดชอบ ประกอบด้วย นครราชสีมา , ชัยภูมิ , บุรัรัมย์ และสุรินทร์
ล่าสุดมีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจากภัยหนาว จำนวน 1 จังหวัด คือ จังหวัดชัยภูมิ ได้มีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจากภัยหนาว จำนวน 8 อำเภอ 61 ตำบล 832 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 112,510 ครอบครัว 334,503 คน ซึ่งทางจังหวัดชัยภูมิได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งรัดให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอย่างเร่งด่วนแล้ว
สำหรับการเตรียมการรับมือกับปัญหาภัยหนาวขณะนี้ได้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาวประจำปี 2557
จัดให้มีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบประจำศูนย์ฯ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมในการสนับสนุนเจ้าหน้าที่ วัสดุอุปกรณ์และเครื่องกันหนาวแก่ทางจังหวัดทันทีที่มีการร้องขอ ทั้งนี้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สำนักงาน ปภ.จังหวัดทุกจังหวัดและศูนย์ ปภ.เขต 5 นครราชสีมา โทรศัพท์สายด่วน 1758 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วน
นายมนตรี กล่าวว่า ช่วงนี้ฤดูหนาว หลายพื้นที่มีอากาศหนาวเย็น
เนื่องจากอิทธิพลของความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมพื้นที่ดังกล่าว ทำให้มีอากาศหนาวเย็นและมีสภาพอากาศแห้งประกอบกับมีลมพัดแรง จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้และทำให้เพลิงไหม้ลุกลามได้อย่างรวดเร็วและยากต่อการควบคุม จึงขอเตือนประชาชนระมัดระวังการเกิดเพลิงไหม้อาคารบ้านพักอาศัยและสถานประกอบการต่างๆ และการก่อไฟผิง การกางเต้นท์พักผ่อนสถานที่ท่องเที่ยว โดยกิจกรรมที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดเพลิงไหม้ ได้แก่ การเผาขยะหรือหญ้าแห้ง ในช่วงที่มีลมพัดแรงไม่ควรเผาขยะหรือหญ้าแห้ง ประชาชนที่จุดกองไฟให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ขอให้ก่อไฟให้ห่างจากบริเวณบ้านและพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยใกล้เคียง ควรก่อไฟในที่โล่ง
ซึ่งไม่มีหญ้าหรือเศษไม้ที่เป็นเชื้อเพลิง เพราะหากเกิดลมกระโชกแรงอาจทำให้ประกายไฟปลิวไปติดเชื้อเพลิงและเกิดเป็นเพลิงไหม้ได้
และควรดับกองไฟทุกครั้งเมื่อใช้งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว หมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัย หากมีการชำรุดเสียหายควรรีบเปลี่ยนหรือแก้ไขทันที ไม่ควรเสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดไว้ที่เต้าเสียบเดียวกัน เพราะจะทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ก่อนออกจากบ้านต้องปิดสวิตซ์และถอดปลั๊กไฟที่ไม่ได้ใช้งานทุกครั้งเพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร นอกจากนี้ หลังการหุงต้มอาหารทุกครั้งต้องปิดเตาและวาล์วแก๊สให้สนิททุกครั้ง เพื่อป้องกันแก๊สรั่วไหลไปติดกับประกายไฟจนทำให้เกิดเพลิงไหม้ลุกลามได้ การจุดธูปเทียนบูชาพระ ควรปักไว้ในที่ปลอดภัย เช่น กระถางธูปและเชิงเทียน ดูแลดับ ธูปเทียนให้เรียบร้อยก่อนออกจากบ้าน รวมทั้งมีการดูแลทำความสะอาดอาคารที่พักอาศัย สถานประกอบการ โดยจัดเก็บหรือกำจัดสิ่งที่อาจเป็นเชื้อเพลิงเพื่อป้องกันการเกิดอัคคีภัยอยู่เสมอ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิด เพลิงไหม้ในช่วงอากาศแห้งของฤดูหนาว สำหรับเกษตรกรควรใช้วิธีการไถกลบแทนการเผาตอซังและฟางข้าวในพื้นที่นาข้าว เพื่อลดภาวะโลกร้อนและมลพิษในอากาศ
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังการเกิดอัคคีภัยในช่วงอากาศแห้งเป็นพิเศษ
เนื่องจากลมพัดแรงทำให้เพลิงไหม้ลุกลามได้รวดเร็วกว่าช่วงเวลาปกติ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการควบคุมเพลิงของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเป็นอย่างยิ่ง หากประชาชนพบเหตุอัคคีภัยขอให้ช่วยกันดับเพลิงและแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบเพื่อออกไปดำเนินการดับเพลิงได้อย่างทันท่วงที โดยแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือดังกล่าวข้างต้น