ปภ.สรุป ยอด ความเสียหายน้ำท่วมภาคใต้ 11 จังหวัด เสียชีวิตรวม10 คน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2 แสนครัวเรือน เกือบ 5 แสนคน คลี่คลายแล้ว 5 จังหวัด
พร้อมตั้งศูนย์บัญชาการที่ จ.สงขลา เผยนายกฯ สั่งเร่งดูแลและฟื้นฟู ให้ความช่วยเหลือประชาชน ส่วนที่ตรังน้ำทะลักท่วม 4 ตำบลในเขตอำเภอเมือง ถนนจมมิดหลายสาย ด้าน ผู้ว่าฯ นราธิวาส ประชุมเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมรับมืออิทธิพลพายุ "เรฮา"
เมื่อวันที่ 27 พ.ย. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)
เปิดเผยว่าอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมภาคใต้ตอนล่าง ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งใน 11 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี ชุมพร สตูล ประจวบคีรีขันธ์ และระนอง รวม 81 อำเภอ 496 ตำบล 3,072 หมู่บ้าน ผู้เสียชีวิต 10 ราย ประชาชนได้รับผลกระทบ 196,444 ครัวเรือน 416,751 คน
นายฉัตรชัยกล่าวว่า สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 5 จังหวัด ได้แก่ ยะลา สตูล ระนอง ประจวบคีรีขันธ์ และปัตตานี
ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ 6 จังหวัด 29 อำเภอ 204 ตำบล 1,366 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ 70,153 ครัวเรือน 184,409 คน เบื้องต้นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม สั่งปภ.ให้ประสานจังหวัดที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลายและเข้าสู่ขั้นตอนการ ฟื้นฟู รวมถึงให้เร่งสำรวจและประเมินความเสียหาย ช่วยเหลือสงเคราะห์เยียวยาประชาชนและฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย
นายฉัตรชัยกล่าวอีกว่า จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักจากอิทธิพลหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงในช่วง วันที่ 28 พ.ย.-1 ธ.ค.นี้
ให้เตรียมป้องกันภัยไว้ล่วงหน้า พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็วประสานกับหน่วยทหาร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ นำวัสดุอุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมเผชิญเหตุ ให้การช่วยเหลือ อพยพประชาชนและขนย้ายสิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัยทันทีที่สถานการณ์ มีแนวโน้มรุนแรง
นายฉัตรชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า ปภ.ได้สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์บัญชาการส่วนหน้าระดับภาคที่ จ.สงขลา
โดยมอบหมายให้ศูนย์ปภ.เขตในพื้นที่ภาคใต้ ทั้งเขต 11 สุราษฎร์ ธานี เขต 12 สงขลา และเขต 18 ภูเก็ต เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่และวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อม บูรณาการหน่วยทหารและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสนับสนุนการเผชิญเหตุและให้ การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย
สำหรับ สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดต่างๆ ที่ จ.ตรัง เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ รวมทั้งทหารจาก ร.15 พัน 4 ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ ยังคงระดมกำลังเดินทางเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้าน ซึ่งได้เกิดน้ำเอ่อล้นพนังกั้นแม่น้ำตรัง เข้าไหลทะลักท่วมบ้านเรือน ซึ่งอยู่ใกล้กับแม่น้ำตรัง
โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.นาท่ามใต้ ต.นาตาล่วง ต.บางรัก และต.หนองตรุด จนกระสอบทรายที่นำมาเสริมพนังกั้นน้ำในบางจุดไม่อาจจะต้านทานไว้ได้
ส่งผลมีน้ำท่วมขัง 30 ซ.ม.- 1 เมตร เป็นบริเวณกว้าง เช่น คาดว่าสถานการณ์จะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปอีก 3-4 วัน นอกจากนั้นถนนบางสายในพื้นที่ อ.เมือง โดยเฉพาะจุดที่อยู่ใกล้กับแม่น้ำตรัง ยังคงมีสภาพน้ำท่วมขังส่งผลกระทบต่อการสัญจรไปมา
วันเดียว กัน นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผวจ.นราธิวาส เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการดูแลพื้นที่
จากสถานการณ์อุทกภัย เพื่อเตรียมแผนรับสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ที่อาจจะเกิดขึ้นจากอิทธิพลพายุ "เรฮา" ซึ่งจะเคลื่อนตัวจากอ่าวเบงกอลเข้าสู่ตอนใต้ของไทย นาย ณัฐพงศ์กล่าวว่า ขณะนี้นราธิวาสเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการพร่องน้ำในแม่น้ำสายหลักลงสู่ทะเล พร้อมทั้งเร่งขุดลอกคูคลอง ขณะเดียวกันยังเตรียมอุปกรณ์เครื่องจักรกลหนัก เพื่อรองรับสถานการณ์ดินโคลนถล่ม รวมถึงเตรียมเรือสำหรับการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย และให้แต่ละอำเภอเตรียมความพร้อมในเรื่องถุงยังชีพที่จะแจกจ่ายให้กับ ประชาชน